เป็นสถานการณ์ที่ชวนให้วิตกไม่น้อย ภายหลังจากที่ "สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย" หรือสกว. ได้ออกมาเผยผลการศึกษาในเรื่องการบริโภคแคลเซียมผ่านอาหารของคนไทย สรุปได้ว่าในปัจจุบันนี้ คนไทยจำนวนไม่น้อยบริโภคแคลเซียมเพียงแค่ 30% ของความต้องการในแต่ละวันเท่านั้น! และที่ชวนให้ประหลาดใจไปกว่านั้นคือข้อมูลที่พบว่า คนในวัยผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งหญิงและชายได้รับแคลเซียมโดยเฉลี่ยเพียง 361 มก.ต่อวันเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากหากเทียบกับปริมาณที่เหมาะสมที่กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเอาไว้ว่า ผู้ใหญ่ควรได้รับแคลเซียมจากอาหารอย่างน้อย 800 มก.
ที่ว่าชวนให้น่าประหลาดใจสำหรับคนวัยผู้ใหญ่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ซึ่งหาซื้อสรรพอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมได้ง่าย เมื่อสำรวจและหาค่าเฉลี่ยออกมาแล้ว ยังพบว่าร่างกายยังขาดแคลเซียมในแต่ละวันกว่าครึ่งเช่นนี้ ทำให้คิดห่วงไปถึงประชาชนในจังหวัดต่างๆ ทุกภูมิภาค ที่บางแห่งอาจจะกันดาร ร้านค้าไม่มากเท่าเมืองใหญ่ๆ หรือสื่อต่างๆ ที่จะให้ความรู้ถึงคุณประโยชน์ของแคลเซียมอาจจะมีไม่มากเท่าในเมืองใหญ่ จะบริโภคแคลเซียมกันมากน้อยสักเท่าใด
นี่ยังไม่นับรวมว่าขนาดผู้ใหญ่ที่มีความรู้และได้รับความรู้มากกว่าเด็กและเยาวชนก็ยังบริโภคน้อย แล้วเด็กๆ จะได้รับคำแนะนำให้บริโภคแคลเซียมซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตหรือไม่
...ถือเป็นสถานการณ์ที่น่าห่วงเอาการ...
เพราะในความเป็นจริงแล้ว แคลเซียมเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างยิ่งยวดไม่แพ้สารอาหารสำคัญอื่นๆ แคลเซียมเป็นส่วนเสริมสร้างสุขภาพฟัน กระดูก รวมไปจนถึงเส้นผม เล็บ หรือแม้กระทั่งเซลล์ประสาท เนื้อเยื่อ เลือด และของเหลวอื่นๆ ในร่างกาย ก็จำต้องอาศัยแคลเซียมช่วยเสริมสร้างทั้งสิ้น แม้กระทั่งภาวะความดันโลหิต แคลเซียมก็มีส่วนช่วยในเรื่องของการควบคุมภาวะความดันโลหิตสูง
ในวัยเด็ก แคลเซียมมีบทบาทอย่างยิ่งยวดต่อการเจริญเติบโตด้านกายภาพ โดยเฉพาะช่วงที่เข้าสู่วัยรุ่น กระดูกจะเติบโตในอัตราที่รวดเร็ว สังเกตว่าหากคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนใส่ใจและพยายามให้ลูกกินอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม อาทิ นม ก็จะพบว่าลูกมักจะเติบโตและมีความสูงกว่าเพื่อนๆ วัยเดียวกัน
นอกจากนี้ ในการทำงานของร่างกายในมิติอื่นๆ ยังพบอีกด้วย ร่างกายมีความต้องการแคลเซียมเพื่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น การส่งเสริมการทำงานของกระแสประสาท การทำงานของกล้ามเนื้อ การเต้นตามปกติของหัวใจ การกระตุ้นให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมน และการกระตุ้นปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ต่างๆ
ที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งการที่ร่างกายได้รับแคลเซียมในปริมาณที่ไม่เพียงพอนั้น จะส่งผลร้ายในระยะยาวคือความเสี่ยงต่อ "ภาวะกระดูกพรุน" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ และปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้คนไทยบริโภคแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายก็คือ การกินอาหารซ้ำ การกินอาหารที่ไม่หลากหลาย และนี่อาจจะเป็นปัจจัยที่อธิบายได้ว่าเหตุใดประชากรในวัยผู้ใหญ่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ จึงบริโภคแคลเซียมต่ำ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะความเร่งรีบอันเป็นวิถีชีวิตประจำวันจนทำให้ "เอาง่ายเข้าว่า" หลายคนฝากท้องไว้กับร้านอาหารประจำที่ทำแต่เมนูเดิมๆ จำพวก ผัดกระเพรา ไข่เจียว ไข่ดาว หมูทอด แกงไก่ ฯลฯ กินซ้ำไปซ้ำมา และในแต่ละวันก็ยุ่งเกินกว่าจะออกไปหาอาหารดีๆ มีประโยชน์ให้ร่างกาย
อ่านถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะเริ่มตระหนักในคุณค่าและความจำเป็นของแคลเซียมขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปหาอาหารที่อุดมแคลเซียมจากที่ไหนมาเตรียมให้ตัวเองและครอบครัวได้ทุกวัน...อันนี้ไม่ยากเลย เพราะเมนูที่อุดมไปด้วยแคลเซียมนั้นอยู่ใกล้ตัวนิดเดียว หากแต่ต้องรู้จักว่าในอาหารประเภทใดบ้างที่มีแคลเซียม
อาหาร | ปริมาณ | แคลเซียม (มก.) | % แคลเซียม |
นมแคลซีเม็กซ์ | 220 มล. | 560 | 70% |
นมไขมันเต็ม | 250 มล. | 290 | 36% |
นมพร่องไขมัน | 250 มล. | 295 | 37% |
นมไม่มีไขมัน | 250 มล. | 300 | 38% |
นมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม | 250 มล. | 250-300 | 31-38% |
โยเกิร์ตรสธรรมชาติขาดไขมัน | 1 ถ้วย | 225 | 28% |
โยเกิร์ตรสผลไม้ | 1 ถ้วย | 160 | 20% |
นมเปรี้ยว | 1 กล่อง (180 มิลลิลิตร) | 106 | 13% |
ปลาตัวเล็ก | 2 ช้อนกินข้าว | 226 | 28% |
กุ้งแห้ง | 1 ช้อนกินข้าว | 138 | 17% |
เต้าหู้อ่อน | 5 ช้อนกินข้าว | 150 | 19% |
ชีส (เนยแข็ง) | 1 ออนซ์ (30 กรัม) | 205 | 26% |
งาดำ | 1 ช้อนโต๊ะ | 132 | 17% |
ท้ายที่สุด ที่จะลืมไปเสียไม่ได้ และถือเป็นพระเอกของ "แคลเซียม" อย่างหนึ่งก็คือ "นม" โดยเฉพาะนมแคลเซียมสูง จากที่เห็นในตารางด้านล่างว่า มีปริมาณแคลเซียมถึง 560 มิลลิกรัมต่อ 1 หน่วยบริโภค หรือ มีแคลเซียมสูงถึง 70% ซึ่งน่าจะเป็น "ตัวช่วย" ที่ดีในวันที่แสนยุ่งเหยิง แค่เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ เพียงเท่านี้ร่างกายก็จะได้แคลเซียมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย และหากจะให้ดีที่สุด กินอาหารที่ดี มีประโยชน์ ควบคู่ไปกับการดื่มนมที่มีแคลเซียมสูงเป็นประจำทุกวัน เพียงเท่านี้ร่างกายของคุณก็จะได้แคลเซียม 100% ตามที่ร่างกายต้องการ
(ข่าวประชาสัมพันธ์)