สธ.สั่งโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ เตรียมพร้อมรับอุบัติเหตุช่วงลอยกระทงตลอด 24 ชั่วโมง ห่วงอันตรายพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ เผยสถิติปีที่ผ่านมาบาดเจ็บ 400 กว่าราย ตาย 2 เฉพาะช่วงลอยกระทงเจ็บหนักเกือบร้อย ระบุมือ ข้อมือ กระดูกนิ้วบาดเจ็บสูงสุด สะเก็ดเข้าตาถึงขั้นตาบอดถาวร เตือนเสียงดังจากพลุทำผู้สูงอายุหัวใจวายได้
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมืออุบัติเหตุช่วงเทศกาลลอยกระทงในวันที่ 2 พฤศจิกายน นี้ ว่า ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศเตรียมพร้อมหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน รถพยาบาล เครื่องมือช่วยชีวิตประจำรถให้พร้อม และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำห้องฉุกเฉิน คลังเลือด ให้พร้อมต่อการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งปัญหาที่มักพบเสมอในเทศกาลนี้ 3 เรื่อง คือ การบาดเจ็บจากการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ จากอุบัติเหตุจราจร และการจมน้ำ หากประชาชนพบเห็นผู้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ขอให้โทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพนเรนทร หมายเลข 1669 ฟรีทุกระบบ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า จากสถิติของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้บาดเจ็บรุนแรงที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายเฝ้าระวังการบาดเจ็บระดับชาติในสังกัด 28 แห่งทั่วประเทศ ปรากฏว่า ตลอดปี 2551 มีผู้บาดเจ็บจากการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ทั้งหมด 432 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยเดือนพฤศจิกายนเจ็บหนักถึง 88 ราย ในวันลอยกระทงวันเดียวมีผู้บาดเจ็บมากถึง 36 ราย หรือร้อยละ 41 ของผู้บาดเจ็บทั้งเดือน ไม่มีเสียชีวิต ผู้บาดเจ็บร้อยละ 98 เป็นชาย เกือบครึ่งเป็นนักเรียน นักศึกษา พบสูงสุดที่จังหวัดเชียงรายร้อยละ 47 รองลงมาคือ ลำปางร้อยละ 25 และในกลุ่มผู้บาดเจ็บดังกล่าว เมาเหล้าร่วมด้วยร้อยละ 26 ชี้ให้เห็นว่าการเมาเหล้าจะทำให้ขาดสติ และมีโอกาสเสี่ยงสูงได้รับบาดเจ็บในการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ อวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดดอกไม้ไฟหรือพลุ ส่วนใหญ่ร้อยละ 56 จะเกิดที่มือและข้อมือมากที่สุด ในจำนวนนี้ กระดูกนิ้วมือแตกละเอียดแพทย์ต้องตัดทิ้ง ร้อยละ 3 และยังมีผู้ถูกสะเก็ดพลุดอกไม้ไฟเข้าที่ตาและรอบๆ ดวงตา เยื่อตา และตาดำ เฉียดตาบอดอีกร้อยละ 14
ด้าน นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี กล่าวว่า พลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ เป็นวัตถุอันตรายอยู่ในหมวดหมู่ของวัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง หากนำมาเล่นจะก่อให้เกิดอันตรายร่างกาย 3 ทางคือ ทางผิวหนัง นิ้ว และตา โดยการเล่นปะทัดถ้าเกิดระเบิดขึ้นบนมือก็จะทำให้นิ้วขาด และอาจเย็บต่อไม่ได้ ถ้าพลุระเบิดถูกที่บริเวณใบหน้าก็จะทำให้ผิวหน้าไหม้ ขนตาไหม้ หนังตาไหม้ทำให้เสียโฉม และที่แน่ๆ อวัยวะที่บอบบางที่สุดคือตา ทำให้ตาดำไหม้ ขุ่นมัว อาจทำให้เลือดออกช่องหน้าม่านตา ทำให้ตาบอดถาวรได้ จึงไม่ส่งเสริมให้ประชาชนเล่นวัตถุเหล่านี้เพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
นพ.ฐานปนวงศ์ กล่าวอีกว่า การเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่ส่งเสียงดัง ทำให้เด็กเล็กและผู้สูงอายุตกใจ โดยผู้สูงอายุบางรายที่มีโรคประจำตัวอาจหัวใจวายได้ และการเล่นโคมลอย พลุลูกหนู อาจตกใส่บ้านเรือนประชาชนทำให้เกิดไฟไหมตามมาได้อีก ซึ่งนอกจากจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 แล้ว หากเกิดอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินจะมีความผิดทั้งทางคดีแพ่ง และคดีอาญาอีกด้วย
