ผู้ว่าฯ กทม.นำทีมตรวจท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา สั่งปิดชั่วคราวทันที หากไม่ปลอดภัย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่กว่า 10,000 นาย คอยดูแลความปลอดภัยตลอดคืนวันลอยกระทง พร้อมสั่งห้ามจำหน่ายและเล่นดอกไม้ไฟ 5 ชนิด ระบุ หากพบผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษทั้งจำและปรับ
วันนี้ (29 ต.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร กทม.ลงเรือตรวจสอบความปลอดภัยของท่าเรือต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้พร้อมใช้ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ที่บริเวณท่าเรือกองการท่องเที่ยว กทม.พร้อมกับมีการสาธิตวิธีการช่วยเหลือผู้ที่เมา และทะเลาะกันจนตกน้ำ โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ในช่วงก่อนเทศกาลลอยกระทง กทม.ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบความปลอดภัยของท่าเทียบเรือ หรือโป๊ะ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 132 แห่ง เป็นโป๊ะสาธารณะ 52 แห่ง เอกชน 80 แห่ง ส่วนโป๊ะท่าเรือ บริเวณคลองสายต่างๆ อีก 185 แห่ง อยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่าโป๊ะท่าเรือบริเวณใดไม่มั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย สำนักงานเขตจะสั่งปิดการใช้ชั่วคราวในช่วงเทศกาลลอยกระทง พร้อมกับได้จัดตั้งกองอำนวยการส่วนหน้า ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จาก กทม.ตำรวจ และสมาชิก อปพร.ร่วมทำหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในวันลอยกระทง ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันที่ 2 พ.ย.2552 จนถึงเวลา 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น รวมจำนวน 5 จุด ในพื้นที่ 5 เขต ได้แก่ 1.บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 เขตบางพลัด 2.บริเวณเชิงสะพานพระราม 9 เขตราษฎร์บูรณะ 3.สวนสันติชัยปราการ เขตพระนคร 4.สวนลุมพินี เขตปทุมวัน และ 5.บริเวณริมบึงลำพังพวย เขตบึงกุ่ม
นอกจากนี้ ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำรวม 3 แห่ง ณ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลตากสิน และวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล พร้อมจัดเรือตรวจการณ์รวม 71 ลำ ดูแลความเรียบร้อยในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ถึงสะพานพระราม 7 นอกจากนี้ ยังได้จัดเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือทางน้ำ จำนวน 3 ชุด ปฏิบัติการ ดูแล และช่วยเหลือประชาชนบริเวณท่าเรือศิริราช ท่าเรือสะพานพุทธ และท่าเรือพระราม 8 อีกทั้งจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทุกระยะ 10 เมตร บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลลอยกระทงของ กทม.จำนวน 8,000 นาย และเจ้าหน้าที่เก็บกระทงและทำความสะอาด จำนวน 3,000 นาย รวมเจ้าหน้าที่กว่า 11,000 นาย
ทั้งนี้ สำหรับมาตรการป้องกันอันตรายจากดอกไม้ไฟ ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เขตขอความร่วมมือจากผู้ผลิต และผู้จำหน่าย ตลอดจนประชาชนทั่วไปในการห้ามจำหน่าย และห้ามเล่นดอกไม้ไฟ 5 ชนิด อย่างเด็ดขาด ได้แก่ 1.ประทัดจีนทุกชนิด 2.ประทัดรูปทรงกลม 3.ประทัดรูปไข่ 4.ประทัดรูปสามเหลี่ยม และ 5.ไดนาไม เนื่องจากมีอันตรายสูง หากพบผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ทั้งจำทั้งปรับตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 พร้อมจัดตั้งชุดเฉพาะกิจโดยให้สำนักงานเขต ประสานงานกับตำรวจท้องที่เพื่อตรวจสอบ สถานประกอบการผลิต และจำหน่ายดอกไม้ไฟอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ ประชาชนที่จะไปลอยกระทงภายในสวนสาธารณะของ กทม.นั้น ทาง กทม.ได้เปิดสวนสาธารณะในความรับผิดชอบให้ประชาชนได้เข้าไปลอยกระทง ในวันจันทร์ที่ 2 พ.ย.2552 ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น.แต่ห้ามไม่ให้มีการจุดประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ ตลอดจนห้ามขายกระทง สินค้า และอาหาร ภายในสวนสาธารณะเด็ดขาด
