“สมาพันธ์เครือข่ายอาชีวะ” เป็นปลื้มรัฐบาลผลักดันตั้งสถาบันอาชีวะศึกษา เชื่อช่วยต่อยอดปริญญาตรีสายปฏิบัติการ ป้อนแรงงานประเทศ ระบุเกาะติดเข้มงบ sp2 พร้อมดูแล ปกป้องผลประโยชน์เพื่อชาวอาชีวะทั้งประเทศ วอนขอบรรจุอัตราเพิ่ม หวั่นอีก 10 ปี อาจารย์เชี่ยวชาญไม่เหลือ
วันนี้ (22 ต.ค.) นายสิทธิพงศ์ ณ เชียงใหม่ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายอาชีวะแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาพันธ์ฯ เป็นห่วงเกี่ยวกับการอาชีวะ 3 เรื่อง เรื่องแรก การจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวอาชีวศึกษารอคอยมานับ 10 ปี และที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนทุกรัฐบาล โดยเฉพาะสมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาถึงรัฐบาลนี้ผลักดันสถาบันจนสำเร็จและได้รับอนุมัติจัดตั้งสถาบันแล้ว โดยเชื่อว่าสถาบันฯ จะจัดตั้งเป็นรูปเป็นร่างได้ในเร็วๆ นี้ และการมีสถาบันอาชีวศึกษาจะทำให้คุณภาพของนักศึกษาอาชีวะสูงขึ้น เพราะมีสมาคมวิชาชีพมาช่วยอบรม ฝึกงาน ขณะเดียวกันการมีสถาบันฯ ยังช่วยให้นักศึกษาอาชีวะต่อยอดเรียนปริญญาตรีสายปฏิบัติการ สนองต่อความต้องการแรงงานของประเทศ
นายสิทธิพงศ์กล่าวต่อว่า เรื่องที่ 2 งบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง ที่รัฐบาลจัดให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จำนวน 10,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ อุปกรณ์เครื่องมือ และอื่นๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพ มาตรฐาน อาชีวะให้ดียิ่งขึ้นนั้น ส่วนที่มีข่าวเกี่ยวกับโครงการฯ ของอาชีวะ ขอชี้แจงว่าในขณะนี้มีแต่โครงการ แผนงานเท่านั้น สำหรับเม็ดเงินยังไม่มี อย่างไรก็ตาม สมาพันธ์ฯ จะติดตามดูแล ปกป้องผลประโยชน์ให้แก่ชาวอาชีวะทั่วประเทศ และเรื่องที่ 3 คือบุคลากรเนื่องจากอีก 10 ปีข้างหน้า อาจจะไม่เหลืออาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพราะจะค่อยๆ เกษียณอายุราชการ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อนักศึกษาอาชีวะ ดังนั้นจะต้องบรรจุอาจารย์มาทดแทนมากกว่าอัตราที่เกษียณไป เนื่องจากปัจจุบัน สอศ.มีนักศึกษา ประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียง 5 แสนคนเท่านั้น
เมื่อถามถึงการร้องเรียนเกี่ยวกับโครงการ sp2 ที่มีมาเป็นระยะนั้น นายสิทธิพงศ์ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นเรื่องที่กล่าวหากันแบบลอยๆ ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการอะไรได้ จะไปปรักปรำใครก็ไม่ได้ เพราะยังไม่มีหลักฐาน ที่สำคัญกระทรวงการคลังยังไม่ได้จัดสรรเงินมาให้เลย
