กทม.เปิดเผยสถิติในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา พบมีการขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินกว่า 1,500 ราย ผอ.สำนักผังเมือง ระบุ ชานเมืองกรุงอย่างหนองจอก บางขุนเทียน มีแนวโน้มใช้พื้นที่มากขึ้น
น.ส.อัญชลี ปัทมาสวรรค์ ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินของผังเมือง รวมกรุงเทพมหานคร ทั้งของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและผู้ประกอบการ ได้มีผู้มาขอรับบริการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่เขตต่างๆ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานประกอบการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร หรือประกอบกิจการตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นับตั้งแต่ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ประกาศใช้บังคับวันที่ 16 พฤษภาคม 2549 จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2552 จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,561 ราย
ทั้งนี้ เป็นการขอตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อประกอบการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม จำนวน 465 ราย, ขออนุญาตจัดสรรที่ดิน จำนวน 455 ราย, ขอจัดตั้งสถานีบริการก๊าซ NGV/LPG จำนวน 266 ราย ขออนุญาตประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 149 ราย ขออนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชย์ และอาคารพักอาศัย จำนวน 54 ราย ประกอบการจัดทำโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (โครงการบ้านเอื้ออาทร) จำนวน 23 ราย ขออนุญาตประกอบกิจการซื้อขาย หรือเก็บเศษวัสดุ จำนวน 19 ราย ขออนุญาตประกอบกิจการโรงแรม จำนวน 31 ราย และขอทราบข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในบริเวณที่เป็นเจ้าของ หรือครอบครองที่ดินเพื่อประกอบการพิจารณาใช้ประโยชน์ จำนวน 99 ราย
โดยเขตที่มีการขอตรวจสอบมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ เขตประเวศ จำนวน 70 ราย เขตวัฒนา จำนวน 69 ราย เขตห้วยขวาง จำนวน 64 ราย เขตหนองจอก จำนวน 62 ราย เขตบางกะปิ และเขตบางขุนเทียน จำนวน 58 ราย
ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กล่าวอีกว่า การขอตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินของผู้ขอตรวจสอบในพื้นที่ต่างๆ จะเห็นได้ว่า ในเขตชานเมืองของกทม.เป็นเขตที่มีแนวโน้มของการพัฒนาการใช้ประโยชน์ที่ดินเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งได้แก่ เขตหนองจอก และ เขตบางขุนเทียน รองลงมาเป็นเขตเมืองชั้นในด้านตะวันออก ได้แก่ เขตห้วยขวาง เขตจตุจักร เขตวัฒนา และ เขตคลองเตย ตามลำดับ