หนอนหนังสือเตรียมเฮ! “จุรินทร์” เผยที่ประชุม คกก.ส่งเสริมการอ่านฯ เห็นชอบ นิติบุคคลบริจาคหนังสือหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า แต่ไม่เกิน 30% ของกำไรก่อนบริจาค คนซื้ออ่านเองนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 10,000 บาท/คน/ปี ขณะที่ให้ผู้ผลิตสามารถคืน VAT ซื้อได้ เพื่อลดต้นทุน จูงใจให้มีการผลิตหนังสือดีๆ นำไปสู่การลดราคาหนังสือในอนาคต พร้อมนำเสนอเข้า ครม.พิจารณาต่อไป
วันนี้ (1 ต.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตว่า วันนี้ที่ประชุมมีความเห็นในส่วนประเด็นเรื่องของภาษีที่เกี่ยวข้องกับการอ่าน โดยเห็นชอบให้มีการนำเสนอเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คือ การบริจาคหนังสือ ที่มีภาษีนิติบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นประเด็นหลัก คือ ในปัจจุบันหากนิติบุคคลใดบริจาคหนังสือก็สามารถนำไปหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าของค่าใช้จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของกำไรของนิติบุคคลนั้นๆ ก่อนการบริจาค โดยที่ปรับใหม่คือต่อไปนี้ให้สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าเช่นเดิม แต่สามารถหักค่าใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้นจากไม่เกิน 10% เป็นไม่เกิน 30% ของกำไรก่อนบริจาค ซึ่งเมื่อคิดเป็นตัวเลขจากปัจจุบันประมาณ 6.33% ของกำไรก่อนหักภาษี ก็จะเพิ่มเป็น 13% ของกำไรก่อนหักภาษี
อีกทั้งจะมีการเพิ่มรายชื่อองค์กรรับบริจาคหนังสือเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันรายชื่อองค์กรที่รับบริจาคหนังสือมีอย่างจำกัด เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ซึ่งไม่ครอบคลุมในบางหน่วยงาน บางองค์กร เช่น มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ตรงนี้จะทำให้มีองค์กรที่จะรับบริจาคหนังสือได้เพิ่มมากขึ้น และจะขอให้หน่วยงานรับบริจาคหนังสือสามารถเลือกรายการหนังสือรับบริจาคได้เพื่อป้องการได้หนังสือที่ไม่ตรงตามความต้องการขององค์กรนั้นๆ
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการซื้อหนังสือมาอ่านนั้น มีความเห็น 2 ส่วน คือ 1.ผู้ซื้อหนังสืออ่านด้วยตัวเองซึ่งปัจจุบันเอามาหักค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีไม่ได้ แต่ที่เสนอใหม่คือ การซื้อหนังสือมาอ่านเองสามารถนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 10,000 บาท/คน/ปี 2.หากเป็นนิติบุคคลที่จะซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดเพื่อให้ประชาชนได้อ่าน ก็สามารถหักได้ 2 เท่าของที่ซื้อจริงเช่นเดียวกัน เพื่อลดหย่อนภาษี ซึ่งหากมีการเห็นชอบจาก ครม. กรมสรรพากรก็จะมีรายละเอียดเรื่องนี้ต่อไป นอกจากนี้ ในปัจจุบันสินค้าที่ส่งออกสามารถคืน VAT ซื้อได้ เพราะฉะนั้นก็จะขอให้การผลิตหนังสือสามารถคืน VAT ซื้อได้เช่นกัน เพื่อลดต้นทุนการผลิตและจูงใจให้มีการผลิตหนังสือดีๆ เพื่อส่งเสริมการอ่านจนนำไปสู่การลดราคาหนังสือในอนาคต
“ทั้งนี้จะเสนอเข้าสู่ ครม.พิจารณาเพื่อนำไปสู่การส่งเสริมการอ่านโดยใช้มาตรการทางภาษีต่อไป โดยก่อนที่จะเข้าเสนอต่อ ครม. อาจส่งให้กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรงด้านภาษี ในการทำความเห็นเสนอขึ้นมา พร้อมทั้งฟังความเห็นจากคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านฯ ประกอบด้วยเช่นกัน” รมว.ศธ.กล่าว