“จุรินทร์” มอบอำนาจโรงเรียนพื้นที่ดุสิตพิจารณาปิดเรียนได้ทันที หาก “แดงถ่อย” คลั่ง! รับอยากเห็นบ้านเมืองสงบ ขอโอกาสรัฐบาลทำงาน เดินหน้าสู่ผลประโยชน์ของประชาชน วอนเห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง อะไรควรทำไม่ควรทำ
วันนี้ (16 ก.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงการประกาศใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิตเพื่อรับมือการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 กันยายนนี้ว่า ตนเองอยากเห็นบ้านเมืองอยู่ในความสงบเพราะว่าประเทศบอบช้ำมามากพอแล้ว ซึ่งอะไรที่จะช่วยกันให้เดินหน้าไปสู่ความสงบสุขสันติก็ควรจะช่วยกันไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะมีปัญหาตลอดเวลา และรัฐบาลก็จะไม่มีเวลาไปแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างเต็มที่ ต้องเอาเวลามาแก้ปัญหาในทางการเมือง อีกทั้งยังเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องการเห็นความสงบสุขในบ้านเมืองและอยากให้โอกาสรัฐบาลในการแก้ปัญหาบ้านเมืองเพราะสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ทุกเรื่องกำลังเดินหน้าไปสู่ผลประโยชน์ของประชาชน จึงอยากให้ทุกฝ่ายเห็นความสงบสุขของคนส่วนร่วมเป็นที่ตั้ง ใช้ดุลยพินิจว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ส่วนจะมีการปิดโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เขตดุสิตหากมีความรุนแรงหรือไม่นั้น ยังไม่อยากพูดถึงเพราะยังไม่ทราบว่ารูปแบบของการชุมนุมจะออกมาในรูปแบใดและมีความรุนแรงหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรก็ตามจะยึดหลักการเดียวกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่าถ้าเกิดมีประเด็นที่กระทบต่อการเรียนหรือมีปัญหา ทางโรงเรียนก็สามารถที่จะพิจารณาปิดโรงเรียนได้
“การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิตว่า ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร และมีความสมควรหรือไม่ที่จะปิดโรงเรียนที่อยู่บริเวณรอบๆ พื้นที่การชุมนุม หากเกิดเหตุที่มีความจำเป็นก็จะต้องปิด โรงเรียนก็สามารถสั่งการปิดเรียนเองได้ซึ่งทาง ศธ.ก็ได้มอบอำนาจให้กับทางโรงเรียนอยู่แล้ว หรือหากโรงเรียนมีข้อสงสัยก็สอบถามมาได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)” รมว.ศธ.กล่าว
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า ในการชุมนุมตนไม่อยากเห็นอะไรที่ไม่ถูกต้องและการละเมิดกฎหมาย ซึ่งหากการชุมนุมเป็นการชุมนุมโดยสงบปลอดจากอาวุธอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญก็สามารถทำได้ และไม่ควรให้กระทบกับส่วนอื่นๆในสังคม ซึ่งหากมีผลกระทบต่อโรงเรียนก็อยากจะขอร้องให้ใช้ความระมัดระวังในการชุมนุมด้วย ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมในครั้งนี้นั้น ตนยังไม่ทราบ และคงไม่ฝากอะไรเพราะว่าเรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่