“วิทยา” วางตัว ว่าที่ปลัด สธ.คนใหม่ รับบทหนักนาน 3 ปี ลุยงานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล ผลิตบุคลกรทางการแพทย์เพิ่ม
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ว่า จะเสนอรายชื่อผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่งเป็นปลัด สธ.คนใหม่ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 กันยายนนี้อย่างแน่นอน ซึ่งได้เรียนให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว ซึ่งผู้ที่ตนได้เสนอชื่อไปนั้น ได้ผ่านการพิจารณาและการประเมินจากผู้ใหญ่หลายคน และเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นผู้ที่มีความเหมาะสม มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ ส่วนเรื่องคุณธรรม และจริยธรรมนั้น บุคลากรใน สธ.ได้ผ่านการกลั่นกรองเรื่องนี้มามากพอแล้ว
“กระบวนการคัดเลือกปลัด สธ.นั้นได้พิจารณาในทุกด้าน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องมีความรู้ความสามารถ เป็นผู้นำองค์กรที่ดีได้ ซึ่งภารกิจงานของ สธ.ในอีก 3 ปีข้างหน้าถือว่ามีภาระหนักมาก โดยเฉพาะโครงการขยายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล การปรับปรุงระบบการรักษาพยาบาลบครั้งใหญ่ รวมถึงการผลิตบุคลาการทางการแพทย์ และสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องวัยวุฒิ หรืออาวุโสเป็นหลัก เพราะผู้บริการ สธ.ส่วนใหญ่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน แตกต่างที่อายุราชการเพียง 1-3 ปีเท่านั้น” นายวิทยา กล่าว
ทั้งนี้ ในจำนวนแคนดิเดตว่าที่ปลัด สธ.มี นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ.เกิดปี 2495 อายุ 57 ปี เหลืออายุราชการ 3 ปี นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ เกิดปี 2494 อายุ 58 ปี เหลืออายุราชการ 2 ปี นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เกิดปี 2493 อายุ 59 ปี แต่เป็นช่วงปลายปีทำให้อายุราชการเหลือ 2 ปี และ นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัด สธ.เกิดปี 2493 อายุ 59 ปี เหลืออายุราชการ 1 ปี
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ว่า จะเสนอรายชื่อผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่งเป็นปลัด สธ.คนใหม่ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 กันยายนนี้อย่างแน่นอน ซึ่งได้เรียนให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว ซึ่งผู้ที่ตนได้เสนอชื่อไปนั้น ได้ผ่านการพิจารณาและการประเมินจากผู้ใหญ่หลายคน และเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นผู้ที่มีความเหมาะสม มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ ส่วนเรื่องคุณธรรม และจริยธรรมนั้น บุคลากรใน สธ.ได้ผ่านการกลั่นกรองเรื่องนี้มามากพอแล้ว
“กระบวนการคัดเลือกปลัด สธ.นั้นได้พิจารณาในทุกด้าน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องมีความรู้ความสามารถ เป็นผู้นำองค์กรที่ดีได้ ซึ่งภารกิจงานของ สธ.ในอีก 3 ปีข้างหน้าถือว่ามีภาระหนักมาก โดยเฉพาะโครงการขยายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล การปรับปรุงระบบการรักษาพยาบาลบครั้งใหญ่ รวมถึงการผลิตบุคลาการทางการแพทย์ และสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องวัยวุฒิ หรืออาวุโสเป็นหลัก เพราะผู้บริการ สธ.ส่วนใหญ่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน แตกต่างที่อายุราชการเพียง 1-3 ปีเท่านั้น” นายวิทยา กล่าว
ทั้งนี้ ในจำนวนแคนดิเดตว่าที่ปลัด สธ.มี นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ.เกิดปี 2495 อายุ 57 ปี เหลืออายุราชการ 3 ปี นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ เกิดปี 2494 อายุ 58 ปี เหลืออายุราชการ 2 ปี นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เกิดปี 2493 อายุ 59 ปี แต่เป็นช่วงปลายปีทำให้อายุราชการเหลือ 2 ปี และ นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัด สธ.เกิดปี 2493 อายุ 59 ปี เหลืออายุราชการ 1 ปี