สุกัญญา แสงงาม รายงาน
โรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส เป็นต้นเหตุสำคัญของโรคปอดบวมในเล็กเด็ก คร่าชีวิตเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบทั่วโลกกว่า 2 ล้านคนต่อปี เฉลี่ยทุกๆ15 วินาที จะมีเด็กเสียชีวิต 1 คน พบมากในภูมิภาคเอเชีย กับแอฟริกา นับว่าเป็นการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่ายิ่งของโลก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะผลักดันให้วัคซีนไอพีดี ซึ่งป้องกันการติดเชื้อนิวโมคอคคัสอยู่ในโปรแกรมวัคซีนแห่งชาติ แต่ก็เกิดคำถามตามมาด้วยว่า มีจำเป็นมากน้อยเพียงใด
ศ.พญ.ลูลู บราโว่ ประธานองค์กรพันธมิตรร่วมป้องกันโรคปอดบวมจากเชื้อนิวโมคอคคัส หรือ ASAP กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ประเทศทั่วโลกตระหนักถึงความรุนแรงของโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส พยายามผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันทางภาคธุรกิจ รัฐบาล องค์กรการกุศล บรรจุวัคซีนไอพีดีเข้าอยู่ในโปรแกรมวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้มีหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง เป็นต้น บรรจุเป็นวัคซีนแห่งชาติแล้ว
แต่ยังมีประเทศอีกจำนวนมากยังไม่ได้บรรจุวัคซีนไอพีดีให้เป็นวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กเล็ก โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาต้องดูแลตัวเอง เนื่องจากราคาวัคซีนค่อนข้างสูงเฉลี่ยเข็มละ 2 ถึง 3 พันบาท เด็กหนึ่งคนต้องฉีด 4 เข็ม ฉีดครั้งแรก ช่วงอายุ 2 เดือน ครั้งที่ 2 อายุ 4 เดือน ครั้งที่ 3 อายุ 6 เดือน และครั้งสุดท้าย อายุ 12-15 เดือน
และนั่นได้กลายเป็นที่มาของการจัดประชุม “วัคซีนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” ขึ้นที่ โรงแรมรอยัล อังกอร์ รีสอร์ท ประเทศกัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้เพื่อระดมสมองแพทย์จากประเทศแถบเอเชีย ช่วยกันหาแนวทางให้เด็กเข้าถึงวัคซีนไอพีดี
ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่เลขา นายกแพทยสภา อธิบายข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไม่เฉพาะแต่โรคปอดบวมเท่านั้น เชื้อนิวโมคอคคัสยังทำให้เกิดโรคติดเชื้อรุนแรงในกลุ่มโรคไอพีพี เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคติดเชื้อในกระแสเลือด โรคไซนัสอักเสบ และโรคหูหนวก ซึ่งเด็กสุขภาพดีทุกคนเป็นกลุ่มเสี่ยง และความเสี่ยงจะสูงมากขึ้นหากเด็กมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ เด็กที่มีน้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำ เด็กที่ติดเชื้อ HIV รวมถึงเด็กที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคธาลัสซีเมีย นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ การอยู่ในสถานที่ที่แออัดแล้วไม่ค่อยได้ระบายอากาศ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้โรคนี้จะมีอุบัติการณ์ไม่มากในประเทศไทย แต่หากติดเชื้อแล้วโอกาสเสี่ยงที่จะพิการหรือเสียชีวิตสูง และการป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัสนั้นทำได้ยาก เนื่องจากเป็นเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในเยื่อบุคอหอยของคนเรา โดยมีอัตราความชุกของเชื้อมากในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ โดยคิดเป็นอัตราการเป็นพาหะสูงร้อยละ 25 หรือ เด็ก 4 คนจะมีเด็กที่มีเชื้อ 1 คน
และที่น่าตกใจคือ เชื้อดังกล่าวสามารถแพร่กระจายในอากาศด้วยละอองฝอยของน้ำมูก จากการไอหรือจาม เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงพาเด็กเล็กไปในสถานที่แออัด หรือมีเด็กอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น เนอร์สเซอรี่ โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
“วงการแพทย์พยายามผลักดันให้เป็นวัคซีนแห่งชาติ โดยระหว่างนี้กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้หลักฐานในการยื่นขอรัฐบาลให้บรรจุเป็นวัคซีนแห่งชาติ แต่ผมไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะบรรจุให้เป็นวัคซีนแห่งชาติหรือไม่ เพราะราคาวัคซีนสูง การจะให้เด็กทุกคนเข้าถึงวัคซีนรัฐบาลต้องแบกภาระค่าใช้จ่าย ไม่เหมือนวัคซีนพื้นฐาน เช่น วัณโรค โปลิโอ ไวรัสตับอักเสบบี หัดเยอรมัน ฯลฯ ที่ราคาถูก อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันการเสียชีวิตของเด็ก แพทย์จะต้องวินิจฉัยว่าเด็กคนไหนอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรรับวัคซีนชนิดนี้ จะต้องอธิบายถึงความจำเป็นให้พ่อแม่รับทราบ เพราะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง”ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ ศ.พญ.อุษา ทิสยากร กรรมการสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งโลก และเลขาธิการสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งเอเชีย กล่าวเสริมว่า การฉีดวัคซีนไอพีดีให้กับเด็ก นอกจากจะป้องกันการติดเชื้อในเด็กแล้วยังลดการแพร่กระจายเชื้อจากเด็กไปสู่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงกลุ่มหนึ่งด้วย เพราะบ้านที่มีผู้สูงอายุมักจะมีเด็กอยู่ร่วมด้วย