อัปยศสมบัติชาติ! กรมศิลปากรเผยไม่สามารถเข้าไปดูแลโบราณสถานที่เป็นกรรมสิทธิ์ของไทยรอบประสาทพระวิหารได้เต็มที่ ทั้งผามออีแดง แหล่งตัดหิน รูปสลักนูนต่ำ รันทดเข้าไปแต่ละครั้งต้องแจ้งทหารก่อน เหตุเกรงไม่ปลอดภัยจากทหารเขมรที่ตรึงกำลังพร้อมอาวุธครบมือ
ตามที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เตรียมให้ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แจงกรณีปราสาทพระวิหารให้ประชาชนรับทราบ พร้อมยืนยันว่าไทยไม่มีเสียดินแดนนั้น
ในส่วนของการดูแลแหล่งโบราณคดีโดยรอบปราสาทพระวิหารของกรมศิลปากร นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะมีการตรึงกำลังทหารทั้งไทยและกัมพูชาบริเวณปราสาทพระวิหารนั้น กรมศิลปากรสามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการดูแลและบูรณะโบราณสถานในเขตพื้นที่ข้อพิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตรได้ รวมถึงเคยเข้าไปในเขตปราสาทพระวิหารได้ ถึงราวบันได ก่อนเข้าสู่ตัวปราสาท ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ขึ้นกับกัมพูชา โดยเข้าไปทำการบูรณะ สระตราว สถูปคู่ เป็นปกติ แต่ในปัจจุบันการเข้าไปดูแลแหล่งโบราณคดีโดยรอบปราสาทพระวิหาร ไม่ว่าจะเป็นสถูปคู่ ผามออีแดง แหล่งตัดหิน รูปสลักนูนต่ำ กรมศิลปากรทำได้ไม่เหมือนแต่ก่อน เพราะขณะนี้ในพื้นที่ดังกล่าวมีทหารของไทย-กัมพูชา เข้ามาดูแลอยู่ หากกรมศิลปากรจะเข้าพื้นที่ไปดูแลแหล่งโบราณคดีจะต้องแจ้งให้ทหารรับทราบก่อน เพื่อช่วยดูแลความปลอดภัยให้แก่เจ้าหน้าที่
ดังนั้น กรมศิลปากรจึงต้องหันไปดูแลโบราณสถานที่อยู่โดยรอบแทน เช่น ปราสาทสด๊อกก๊อกธม ปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด เป็นต้น
“ตอนนี้บริเวณผามออีแดงมีทหารของทั้งสองฝ่ายเต็มไปหมด เพราะต่างฝ่ายต่างเข้าใจว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ทั้งคู่ ทำให้การดูแลแหล่งโบราณคดีของกรมศิลปากรทำได้ไม่เต็มที่ ซึ่งปีที่แล้วเป็นครั้งสุดท้ายในการเข้าไปไปดูแล ก่อนหน้าที่จะมีการขึ้นทะเบียนพระวิหารเป็นมรดกดโลก และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เข้าไปอีกเลย หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อต่อไป ความทรุดโทรมก็จะเกิดขึ้นกับสมบัติชาติได้ ซึ่งจะส่งผลเสียทำให้แหล่งโบราณคดีเกิดความเสื่อมโทรม แต่ทั้งนี้กรมศิลปากรก็ยังต้องพยายามเข้าไปดูแลในพื้นที่ให้ได้ เพราะสถูปคู่ ผามออีแดง แหล่งตัดหิน เป็นของประเทศไทยเป็นสมบัติของชาติที่ต้องดูแลต่อไป” อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว
นายขจร มุกมีค่า ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 จ.อุบลราชธานี กล่าวถึง การเข้าไปดูแลเขตโบราณสถานใน จ.ศรีสะเกษ บริเวณเขาพระวิหาร ผามออีแดง และสถูปคู่ ว่า ตนและเจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าไปในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเป็นเวลานานแล้ว ก่อนหน้านี้หากจะเข้าไปต้องประสานกับทางอุทยานฯ ก่อน แต่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากมีการปิดพื้นที่ อีกทั้งมีปัญหาเรื่องผลกระทบเขตแดนที่ยังไม่ได้ปักปันแน่ชัด ประกอบกับมีเรื่องราวการขึ้นบัญชีตัวปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา ซึ่งไม่เพียงเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรเท่านั้นที่เข้าถึงพื้นที่ได้ยาก นักท่องเที่ยว หรือแม้แต่ทหาร ซึ่งเป็นกำลังในพื้นที่ต้องระวังความปลอดภัยอีกด้วย
"ก่อนนี้การจะให้นักท่องเที่ยวเข้าชมผามออีแดง สถูปคู่ ยังไม่มีความลำบากเท่าไหร่ เพียงแค่ประสานกับอุทยานฯ ก็เข้าไปดูได้ แต่พอมีปัญหาการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ก็มีการกังวลเรื่องความปลอดภัย เราเองจะเข้าไปก็ลำบาก เพราะบางพื้นที่ค่อนข้างอันตราย แม้แต่ทหารเอง ที่ทำหน้าที่ตรงนั้นก็ยังต้องตรึงกำลังหนาแน่นเพราะไม้รู้ว่าเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นเมื่อไหร่ ดังนั้นกรมศิลป์ฯ ทำงานลำบากแน่นอน นักท่องเที่ยวเองก็ไม่มีความสะดวกในการเข้าไปตอนนี้ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับความมั่นคง ทหาร การเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวจึงไม่สะดวก" ผอ.สำนักศิลปากรที่ 11 จ.อุบลราชธานี กล่าว