สธ.ไม่พบตัวอย่างเชื้อของ “เดย์ ไอโฟน” เหยื่อหวัด2009 ชื่อจริง “ณัฐวัฒน์ ปาใจ” อายุ 28 ปี ส่งตรวจกรมวิทย์ ยอมรับอาจตกสำรวจ เหตุ รพ.เอกชนส่งตรวจแล็บอื่นไม่แจ้งให้ สธ.ทราบ เตรียมหารือบิ๊ก สธ.หาทางแก้เรื่องรายงานผู้ป่วยตาย-แนวทางให้ยาผู้ป่วย
หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวการเสียชีวิตของ “เดย์ ไอโฟน” เจ้าของนามแฝงในบอร์ด Creative 7419 ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้ผู้ที่ใช้ iPhone สามารถใช้ฟอนต์ภาษาไทย บนหน้าปัด iPhone ได้ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้มีบรรดานักท่องเน็ตจำนวนหลายร้อยคน โพสต์ข้อความแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ “เดย์” อย่างถล่มทลายในทุกเว็บไซต์ที่มีการเสนอข่าวดังกล่าว พร้อมทั้งประณามการกระทำของแพทย์ที่ไม่ยอมให้การรักษาที่ดีที่สุดแก่เดย์นั้น
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการเช็กข้อมูลตัวอย่างผู้ป่วยที่นำมาให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจว่าเป็นไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่นั้น ปรากฏว่า ไม่มีชื่อของนายณัฐวัฒน์ ปาใจ หรือ เดย์ ผู้คิดค้นภาษาไทยในโทรศัพท์มือถือไอโฟนแต่อย่างใด ทั้งนี้ คงอาจเป็นเพราะทางโรงพยาบาลเอกชนนำเชื้อไปตรวจยืนยันกับห้องปฏิบัติการแห่งอื่น ซึ่งทาง สธ.ต้องยอมรับว่าอาจจะเกิดการตกสำรวจ
อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับฝ่ายบริหารอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรกับความไม่ร่วมมือของสถานพยาบาลเอกชน รวมถึงแนวทางการรักษาผู้ป่วยที่ สธ.ตั้งไว้ให้รักษาผู้ป่วยหากมีกลุ่มอาการที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยไม่สนใจว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือไม่
ส่วนกรณีของนายพีรวีร์ ตวงสินกุลบดี จากการตรวจสอบข้อมูลของสำนักระบาดวิทยาขณะนี้ ก็ยังไม่พบชื่อในรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เช่นเดียวกัน
ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพตรวจสอบเท็จจริงกรณีของ นายพีรวีร์ แล้ว เพื่อหาข้อสรุปว่าเป็นความบกพร่องในระบบการรักษาของสถานพยาบาลหรือไม่แล้ว คาดว่า จะทราบผลในวันที่ 3 ก.ย.นี้ นอกจากนี้ ทางแพทยสภาได้นัดไต่สวนกรณีดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษในวันที่ 31 ส.ค.ซึ่งคาดว่าน่าจะทราบผลในเวลาใกล้เคียงกัน โดยสรุปเหตุการณ์ที่ญาติของ นายพีรวีร์ ร้องเรียนเข้ามานั้น คือ การที่ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน 3 แห่ง แต่ รพ.2 แห่งแรกกลับไม่ให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ จนผู้ป่วยเสียชีวิต และต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมกว่า 3 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมของผู้สื่อข่าว ญาติของนายพีรวีร์ ระบุว่า มีผู้ขับรถพานายพีรวีร์ ไปพบแพทย์ทั้ง 3 โรงพยาบาล ขณะที่ “เดย์ ไอโฟน” ประสบเหตุการณ์ในการไปพบแพทย์ถึง 3 รพ.เช่นเดียวกับ นายพีรวีร์ แต่เป็นการนั่งรถไฟฟ้าไปพบแพทย์ ไม่ได้มีผู้ขับรถพาไป
หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวการเสียชีวิตของ “เดย์ ไอโฟน” เจ้าของนามแฝงในบอร์ด Creative 7419 ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้ผู้ที่ใช้ iPhone สามารถใช้ฟอนต์ภาษาไทย บนหน้าปัด iPhone ได้ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้มีบรรดานักท่องเน็ตจำนวนหลายร้อยคน โพสต์ข้อความแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ “เดย์” อย่างถล่มทลายในทุกเว็บไซต์ที่มีการเสนอข่าวดังกล่าว พร้อมทั้งประณามการกระทำของแพทย์ที่ไม่ยอมให้การรักษาที่ดีที่สุดแก่เดย์นั้น
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการเช็กข้อมูลตัวอย่างผู้ป่วยที่นำมาให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจว่าเป็นไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่นั้น ปรากฏว่า ไม่มีชื่อของนายณัฐวัฒน์ ปาใจ หรือ เดย์ ผู้คิดค้นภาษาไทยในโทรศัพท์มือถือไอโฟนแต่อย่างใด ทั้งนี้ คงอาจเป็นเพราะทางโรงพยาบาลเอกชนนำเชื้อไปตรวจยืนยันกับห้องปฏิบัติการแห่งอื่น ซึ่งทาง สธ.ต้องยอมรับว่าอาจจะเกิดการตกสำรวจ
อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับฝ่ายบริหารอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรกับความไม่ร่วมมือของสถานพยาบาลเอกชน รวมถึงแนวทางการรักษาผู้ป่วยที่ สธ.ตั้งไว้ให้รักษาผู้ป่วยหากมีกลุ่มอาการที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยไม่สนใจว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือไม่
ส่วนกรณีของนายพีรวีร์ ตวงสินกุลบดี จากการตรวจสอบข้อมูลของสำนักระบาดวิทยาขณะนี้ ก็ยังไม่พบชื่อในรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เช่นเดียวกัน
ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพตรวจสอบเท็จจริงกรณีของ นายพีรวีร์ แล้ว เพื่อหาข้อสรุปว่าเป็นความบกพร่องในระบบการรักษาของสถานพยาบาลหรือไม่แล้ว คาดว่า จะทราบผลในวันที่ 3 ก.ย.นี้ นอกจากนี้ ทางแพทยสภาได้นัดไต่สวนกรณีดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษในวันที่ 31 ส.ค.ซึ่งคาดว่าน่าจะทราบผลในเวลาใกล้เคียงกัน โดยสรุปเหตุการณ์ที่ญาติของ นายพีรวีร์ ร้องเรียนเข้ามานั้น คือ การที่ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน 3 แห่ง แต่ รพ.2 แห่งแรกกลับไม่ให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ จนผู้ป่วยเสียชีวิต และต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมกว่า 3 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมของผู้สื่อข่าว ญาติของนายพีรวีร์ ระบุว่า มีผู้ขับรถพานายพีรวีร์ ไปพบแพทย์ทั้ง 3 โรงพยาบาล ขณะที่ “เดย์ ไอโฟน” ประสบเหตุการณ์ในการไปพบแพทย์ถึง 3 รพ.เช่นเดียวกับ นายพีรวีร์ แต่เป็นการนั่งรถไฟฟ้าไปพบแพทย์ ไม่ได้มีผู้ขับรถพาไป
