“อภิสิทธิ์” พร้อมรับดูแลขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 ด้วยตัวเอง ภายใน 5 ปี เร่งขจัดจุดอ่อนการปฏิรูปการศึกษา 4 ข้อ พัฒนาครูตั้งสถาบันคุรุศึกษา มาตรฐานการศึกษาและวิชาชีพตั้งสถาบันดูแลคุณวุฒิการศึกษา ยกระดับการศึกษานอกโรงเรียนและผลักดันกองทุนเทคโนโลยีพัฒนาการศึกษา
วันที่ 23 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ถึงการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 ว่า นอกจากมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาขับเคลื่อนโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานด้วยตัวเองแล้ว สิ่งที่จะเร่งทำอีกอย่างน้อย 4 เรื่องตามที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่าเป็นจุดอ่อนของการปฏิรูปการศึกษา คือ 1.เรื่องครู รัฐบาลจะเดินหน้าตั้งสถาบันคุรุศึกษามาดูแลกระบวนการผลิต พัฒนาและประกันคุณภาพของครู ตามที่ครูบ่นว่าปัจจุบันการประเมินไม่ได้อิงหลักการสอนหนังสือ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายคืนครูให้นักเรียน ดังนั้นต่อไประบบการประเมินว่าจะปรับแก้ในส่วนที่เคยประเมินกันจากเอกสารแล้วไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์อะไร
2.ปัจจุบันหลายคนพุ่งเป้าหวังได้ปริญญาจากการศึกษาทั้งตรี โท เอก แต่จริงๆ แล้วในความต้องการบุคลากรตามเศรษฐกิจและสังคม มีความหลากหลายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษาสายอาชีพ รัฐบาลจะทำต่อไป คือ การตั้งสถาบันที่มาดูแลคุณวุฒิของการศึกษา หมายความว่าใครที่จะเรียนจบระดับใดก็ตาม จะเข้ามาสู่สถาบันนี้ช่วยดูแลเรื่องมาตรฐานการประกอบอาชีพต่างๆ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงแรงงานได้คุยกันได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว จากนี้สถาบันนี้จะเกิดขึ้นมาเพื่อฝึกฝนอาชีพให้คน ป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรม ธุรกิจที่ตรงต่อความต้องการของนายจ้างหรือผู้ประกอบการ หรือระบบราชการ
3.จะมีการยกระดับการศึกษานอกโรงเรียน เพราะเป็นกระบวนการสำคัญให้คนเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต 4.ด้านเทคโนโลยี จะมีกองทุนที่เคยถูกกำหนดไว้ในกฎหมายเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่คืบหน้าน้อยมาก ขณะนี้จะมีระบบบริหารจัดการกองทุนเทคโนโลยีที่จะมาพัฒนาการศึกษาที่เป็นรูปธรรม เป็นส่วนหนึ่งของการปฎิรูปการศึกษาครั้งนี้ด้วย
“ผมพูดเสมอว่าเรื่องของการพัฒนาคนเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศชาติบ้านเมือง พัฒนาสังคม ปัจจุบันระบบการศึกษายังมีปัญหาอยู่มาก รัฐบาลจะถือเรื่องของการปฏิรูปการศึกษาในรอบนี้เป็นนโยบายสำคัญ ผมเองจะเข้าไปผลักดันและร่วมขับเคลื่อนเรื่องนี้ เบื้องต้นมีหลายเรื่องที่ ครม.เห็นชอบไปนั้น มีงานหลายเรื่องที่ต้องทำ และไม่สามารถทำเสร็จได้ในช่วงสั้นๆ ตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 5 ปีหลายอย่างต้องปรากฏเป็นรูปธรรม แต่สิ่งที่ผมพูดไป 4 เรื่องวันนี้ จะเป็นเรื่องที่เราจะสามารถเดินหน้าไปได้ค่อนข้างรวดเร็วและแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่มีอยู่ของการศึกษา” นายอภิสิทธิ์กล่าว
วันที่ 23 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ถึงการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 ว่า นอกจากมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาขับเคลื่อนโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานด้วยตัวเองแล้ว สิ่งที่จะเร่งทำอีกอย่างน้อย 4 เรื่องตามที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่าเป็นจุดอ่อนของการปฏิรูปการศึกษา คือ 1.เรื่องครู รัฐบาลจะเดินหน้าตั้งสถาบันคุรุศึกษามาดูแลกระบวนการผลิต พัฒนาและประกันคุณภาพของครู ตามที่ครูบ่นว่าปัจจุบันการประเมินไม่ได้อิงหลักการสอนหนังสือ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายคืนครูให้นักเรียน ดังนั้นต่อไประบบการประเมินว่าจะปรับแก้ในส่วนที่เคยประเมินกันจากเอกสารแล้วไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์อะไร
2.ปัจจุบันหลายคนพุ่งเป้าหวังได้ปริญญาจากการศึกษาทั้งตรี โท เอก แต่จริงๆ แล้วในความต้องการบุคลากรตามเศรษฐกิจและสังคม มีความหลากหลายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษาสายอาชีพ รัฐบาลจะทำต่อไป คือ การตั้งสถาบันที่มาดูแลคุณวุฒิของการศึกษา หมายความว่าใครที่จะเรียนจบระดับใดก็ตาม จะเข้ามาสู่สถาบันนี้ช่วยดูแลเรื่องมาตรฐานการประกอบอาชีพต่างๆ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงแรงงานได้คุยกันได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว จากนี้สถาบันนี้จะเกิดขึ้นมาเพื่อฝึกฝนอาชีพให้คน ป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรม ธุรกิจที่ตรงต่อความต้องการของนายจ้างหรือผู้ประกอบการ หรือระบบราชการ
3.จะมีการยกระดับการศึกษานอกโรงเรียน เพราะเป็นกระบวนการสำคัญให้คนเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต 4.ด้านเทคโนโลยี จะมีกองทุนที่เคยถูกกำหนดไว้ในกฎหมายเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่คืบหน้าน้อยมาก ขณะนี้จะมีระบบบริหารจัดการกองทุนเทคโนโลยีที่จะมาพัฒนาการศึกษาที่เป็นรูปธรรม เป็นส่วนหนึ่งของการปฎิรูปการศึกษาครั้งนี้ด้วย
“ผมพูดเสมอว่าเรื่องของการพัฒนาคนเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศชาติบ้านเมือง พัฒนาสังคม ปัจจุบันระบบการศึกษายังมีปัญหาอยู่มาก รัฐบาลจะถือเรื่องของการปฏิรูปการศึกษาในรอบนี้เป็นนโยบายสำคัญ ผมเองจะเข้าไปผลักดันและร่วมขับเคลื่อนเรื่องนี้ เบื้องต้นมีหลายเรื่องที่ ครม.เห็นชอบไปนั้น มีงานหลายเรื่องที่ต้องทำ และไม่สามารถทำเสร็จได้ในช่วงสั้นๆ ตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 5 ปีหลายอย่างต้องปรากฏเป็นรูปธรรม แต่สิ่งที่ผมพูดไป 4 เรื่องวันนี้ จะเป็นเรื่องที่เราจะสามารถเดินหน้าไปได้ค่อนข้างรวดเร็วและแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่มีอยู่ของการศึกษา” นายอภิสิทธิ์กล่าว
