สธ.ตั้งเป้าปี 2554 ต้องใช้สมุนไพรเป็นยาให้ได้ร้อยละ 25 จากปัจจุบันใช้ร้อยละ 2 พร้อมเร่งส่งเสริมให้โรงพยาบาลใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบันให้มากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายการนำเข้ายาแผนปัจจุบันจากต่างประเทศ
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน เอกซเรย์ ห้องผ่าตัด หออภิบาลผู้ป่วยหนักและชันสูตร ขนาด 5 ชั้น ของโรงพยาบาลดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี วันนี้ (21 ส.ค.) ว่า ขณะนี้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีผู้รับบริการจำนวนมาก กำลังประสบปัญหาเรื่องความแออัดในการให้บริการ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านอาคารสถานที่ บางแห่งอาคารชำรุดทรุดโทรมมาก จนอาจเป็นอันตรายต่อผู้รับบริการได้ สธ.จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยในด้านการรักษาพยาบาล มีนโยบายส่งเสริมให้โรงพยาบาลใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบันให้มากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายการนำเข้ายาแผนปัจจุบันจากต่างประเทศ ให้มีกระบวนการวิจัยและพัฒนายาสมุนไพรตามหลักวิชาการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ตั้งเป้าหมายภายในปี 2554 จะเพิ่มการใช้ยาสมุนไพรจากปัจจุบันร้อยละ 2 ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 25 ของมูลค่ายาที่ใช้ทั้งหมด ขณะนี้หลายแห่งพัฒนางานด้านนี้ก้าวหน้าไปมาก จนเป็นที่ยอมรับและเป็นแหล่งศึกษาดูงานได้อย่างดี
สำหรับโรงพยาบาลดำเนินสะดวกได้พัฒนางานด้านการแพทย์แผนไทยมาตั้งแต่ปี 2544 ปัจจุบันมีบริการทั้งการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้แก่ การนวด อบ ประคบสมุนไพร การใช้ยาสมุนไพรบำบัดอาการต่างๆ เช่น เจลพริก บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจลพญายอ รักษาโรคเริม โรคงูสวัด คาลาไมน์พญายอ บรรเทาอาการคันตามร่างกาย และการฝังเข็ม เป็นต้น
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน เอกซเรย์ ห้องผ่าตัด หออภิบาลผู้ป่วยหนักและชันสูตร ขนาด 5 ชั้น ของโรงพยาบาลดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี วันนี้ (21 ส.ค.) ว่า ขณะนี้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีผู้รับบริการจำนวนมาก กำลังประสบปัญหาเรื่องความแออัดในการให้บริการ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านอาคารสถานที่ บางแห่งอาคารชำรุดทรุดโทรมมาก จนอาจเป็นอันตรายต่อผู้รับบริการได้ สธ.จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยในด้านการรักษาพยาบาล มีนโยบายส่งเสริมให้โรงพยาบาลใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบันให้มากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายการนำเข้ายาแผนปัจจุบันจากต่างประเทศ ให้มีกระบวนการวิจัยและพัฒนายาสมุนไพรตามหลักวิชาการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ตั้งเป้าหมายภายในปี 2554 จะเพิ่มการใช้ยาสมุนไพรจากปัจจุบันร้อยละ 2 ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 25 ของมูลค่ายาที่ใช้ทั้งหมด ขณะนี้หลายแห่งพัฒนางานด้านนี้ก้าวหน้าไปมาก จนเป็นที่ยอมรับและเป็นแหล่งศึกษาดูงานได้อย่างดี
สำหรับโรงพยาบาลดำเนินสะดวกได้พัฒนางานด้านการแพทย์แผนไทยมาตั้งแต่ปี 2544 ปัจจุบันมีบริการทั้งการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้แก่ การนวด อบ ประคบสมุนไพร การใช้ยาสมุนไพรบำบัดอาการต่างๆ เช่น เจลพริก บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจลพญายอ รักษาโรคเริม โรคงูสวัด คาลาไมน์พญายอ บรรเทาอาการคันตามร่างกาย และการฝังเข็ม เป็นต้น
