xs
xsm
sm
md
lg

โพลระบุวัยรุ่น กทม.ร้อยละ 39.7 สับ “แก๊งโจ๋ปาหิน” ไร้สติ น่าสมเพช ชี้ควรรับโทษเท่าผู้ใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจเรื่อง “แก๊งวัยรุ่นปาหิน” พบวัยรุ่น กทม.ร้อยละ 39.7 เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไร้สติ น่ารังเกียจ น่าสมเพช น่าละอายใจแทน ส่วนใหญ่ร้อยละ 83.4 เห็นควรให้รับโทษเท่าผู้ใหญ่กระทำผิด ขณะที่ร้อยละ 63.6 ไม่เห็นด้วยลงโทษผู้ปกครอง

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ได้ดำเนินการสำรวจเรื่อง “ถามใจวัยรุ่นเรื่อง “แก๊งปาหิน” เพื่อสะท้อนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับทางออกของเรื่องปัญหาแก๊งวัยรุ่นปาหินที่กลายเป็นปัญหาใหญ่สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ก่อให้เกิดความวิตกกังวลและหวาดระแวงให้กับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนในยามค่ำคืนเป็น โดยเฉพาะถนนสายหลักที่ใช้เดินทางสู่ภาคต่างๆ ซึ่งมีระยะทางยาวและค่อนข้างมืด ทำให้เป็นเหตุจูงใจในการก่อเหตุปาหินบ่อยครั้ง โดยขณะนี้ได้ขยายวงกว้างไปในหลายพื้นที่ โดยเก็บสำรวจข้อมูลจากกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-23 ปี ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,177 คน เป็นเพศชายร้อยละ 48.4 และเพศหญิงร้อยละ 51.6 เมื่อวันที่ 17-19 สิงหาคมที่ผ่านมา พบว่า

เมื่อถามถึงความรู้สึกเมื่อทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุปาหินใส่กระจกรถบนท้องถนนเป็น “กลุ่มวัยรุ่น” นั้น ร้อยละ 39.7 มองว่าเป็นการกระทำที่ไร้สติ ร้อยละ 29 น่ารังเกียจ น่าสมเพช และร้อยละ 20 เป็นเรื่องที่น่าละอายใจแทน สำหรับข้อเสนอในการแก้ปัญหานั้น ร้อยละ 45.2 เห็นว่าควรใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด เพิ่มโทษผู้กระทำผิดให้หนักขึ้น ร้อยละ 18.4 อยากให้ตำรวจตั้งด่านและปราบปรามอย่างจริงจัง ส่วนที่เหลือเห็นว่าต้องสร้างจิตสำนึกแก่วัยรุ่นให้เห้นถึงผลเสีย ผู้ปกครองควรอบรมสั่งสอน ดูแลบุตรหลาน และส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

ด้านความเห็นถึงบทลงโทษสำหรับ “วัยรุ่น” ที่ปาหินนั้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 83.4 เห็นว่า ควรลงโทษสถานหนักเทียบเท่าผู้ใหญ่ ส่วนประเด็นการลงโทษพ่อแม่ผู้ปกครองของวัยรุ่นที่ก่อเหตุปาหินนั้น ร้อยละ 63.6 ไม่เห็นด้วย เพราะพ่อแม่ไม่เกี่ยวข้อง ขณะที่ร้อยละ 36.4 เห็นด้วย เเพราะพ่อแม่ไม่ดูแลบุตรหลานให้ดี ครอบครัวเดียวกันควรรับผิดชอบร่วมกัน จะได้เกิดสำนึก

สำหรับสิ่งที่อยากบอกกลุ่มวัยรุ่นที่กระทำ หรือกำลังคิดจะทำเลียนแบบ “แก๊งปาหิน” นั้นร้อยละ 21.4 เห็นว่า เป็นการทำให้ผู้อื่นและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับความเดือดร้อน ร้อยละ 19 เห็นว่า เป็นเรื่องไม่ดี ให้เลิกทำ และไม่ควรคิดเลียนแบบ ร้อยละ 14.3 ให้ทำในสิ่งที่มีประโยชน์จะดีกว่า อีกทั้งอยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา หากเกิดกับคนในครอบครัวจะเป็นอย่างไร และเป็นการกระทำที่ไร้สาระ ไม่มีหัวคิด
กำลังโหลดความคิดเห็น