รมช.สธ.ชี้ จะใช้ไข่ไก่ไทยทดลองวัคซีนต้านหวัดต้องถามนานาชาติก่อน เผย ยอดตายลดลง และยอดคนใช้หน้ากากลดลงด้วย เล็งโหมประชาสัมพันธ์อีกระลอกให้หันมาใช้หน้ากากผ้า
นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ในเรื่องของการทดลองวัคซีน ต้องให้องค์การเภสัชกรรมดูในรายละเอียดเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาจากการที่เราเริ่มทำการทดลอง แน่นอนว่าต้องมีปัญหาบ้าง
ทั้งนี้ ในเรื่องของการใช้ไข่ไก่จากเยอรมนี ต้องดูผลลัพธ์ที่ออกมาด้วย อย่างไรก็ตาม หากจะมีการนำไข่ไก่ของประเทศไทยมาใช้ทดลอง คงต้องสอบถามความคิดเห็นจากต่างประเทศอื่นเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา เพื่อให้ผลออกมาตรงกัน
นอกจากนี้ คงต้องรอดูผลการทดลองจากประเทศรัสเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลว่าผลที่ออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้คงต้องใช้เวลาในการทดลองอีกสักระยะ
นายมานิต กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ของการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ตอนนี้เราเน้นการเฝ้าระวังอาการเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังได้มีการสุ่มเก็บตัวอย่างว่าการระบาดรอบสอง จะเกิดขึ้นเมื่อใด และการทดลองการดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ เพื่อให้ควบคู่ไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นในเรื่องของการควบคุมดูแลทาง สธ.ยังทำอย่างเต็มที่ และไม่ประมาท เนื่องจากปลายเดือน ส.ค.เป็นต้นไป จะมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงฤดูฝน และคาบเกี่ยวกับช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเป็นช่วงระบาดของไข้หวัดตามฤดูกาลร่วมด้วย ทางกระทรวงจึงกังวลว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะตามมาอีก
เมื่อถามว่า การรายงานตัวเลขของผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตตอนนี้ยังมีความเหมาะสมหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า กระทรวงจะยังคงใช้หลักการเดิม และได้สั่งให้นักวิชาการที่เกี่ยวข้องดูข้อมูลในเรื่องนี้ด้วย คาดว่า ในรอบสัปดาห์นี้ จะมีผู้เสียชีวิตลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ประมาณ 12-13 ราย เนื่องจากมีการกระจายยาโอเซลทามีเวียร์ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ เพราะถึงแม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เรายังไม่มีวัคซีน ทางที่ดีที่สุด คือ การป้องกัน เพราะหากเกิดการแพร่ระบาดที่ไหนแล้วก็จะแพร่กระจายเชื้อไปได้เร็วมากเป็นเงาตามตัว
ส่วนในเรื่องของหน้าการใช้หน้ากากอนามัย ตอนนี้กระทรวงสาธาณสุขคงต้องรณรงค์อีกครั้ง เพราะดูแล้วตอนนี้มีการใช้หน้ากากเบาบางลงมาก คาดว่า ในเร็วๆ นี้ คงจะต้องมีการรณรงค์การใช้หน้ากากเพิ่มขึ้น ซึ่งเราจะรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้หน้ากากผ้า เนื่องจาก 1 คน สามารถมีหน้ากากได้ 2 ชิ้น ทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพราะหากเป็นหน้ากากกระดาษ เรายังกังวลในเรื่องขยะที่จะมีปริมาณมาก และต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานทุกภาคส่วนด้วย
