ประธานบอร์ด อภ.เผยพรุ่งนี้ทราบผลทดลองวัคซีนหวัดใหญ่ 2009 ว่าจะมีปริมาณเชื้อเท่าใด หากมีจำนวนน้อยต่ำกว่าเป้า อาจส่งผลเลื่อนการทดลองในคนออกไปอีก 2 เดือน ขณะที่นักวิชาการ ระบุนโยบาย สธ.ให้ อสม.ค้นหาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังไม่ชัดเจน และขาดขวัญกำลังใจ เพราะไม่มีเคยพูดเรื่องค่าตอบแทน หรือประกันชีวิตให้หากป่วยหวัดใหญ่ 2009
นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการกระจายยาโอเซลทามิเวียร์สำหรับเด็กว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือกับทางองค์การเภสัชกรรม (อภ.) อย่างชัดเจน ทราบว่าผลิตเสร็จสิ้นแล้ว แต่คงต้องหารือกับผู้เชี่ยวชาญต่างๆ โดยเฉพาะด้านเด็ก เพื่อให้เกิดการกระจายและใช้ยาอย่างมีประสิทธิภาพ หรืออาจกระจายยาไปในพื้นที่ที่เข้าถึงยาได้น้อย หรือมีผู้ป่วยที่เป็นเด็กจำนวนมาก
ด้าน นพ.ทวี โชติพิทยะสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 11 กรมการแพทย์ กล่าวว่า เชื่อว่าการกระจายยาคงไปในรูปแบบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ สำหรับอัตราการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในเด็ก พบเป็นจำนวนถึงร้อยละ 40 ของผู้ป่วยทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าการจัดทำยาสำหรับเด็ก จะทำให้เกิดความสะดวกในการรักษาพยาบาลมากยิ่งขึ้น
ขณะที่นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งมีกระแสข่าวว่าได้ปริมาณน้ำเชื้อต่ำกว่าเป้าว่า คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) จึงจะทราบผลของการคำนวณปริมาณเชื้อไวรัสที่มีการทดลองในไข่ไก่ฟักของเยอรมนีอย่างชัดเจน เบื้องต้นทราบว่าปริมาณน้ำเชื้อที่ทดลองในไข่ไก่สะอาดของเยอรมนีได้เพียง 8 ลิตร แต่การทดลองควบคู่ในไข่ไก่สะอาดของไทย กลับได้ถึง 13 ลิตร เชื่อว่าปัจจัยที่ทำให้ได้ปริมาณเชื้อในไข่ไก่ของเยอรมนีน้อยนั้น น่าจะมาจาก 3 ปัจจัย
1.ไข่ไก่จากเยอรมนีไม่สามารถปรับสภาพได้ดีพอ ความดันอากาศเป็นปัจจัยหลัก 2.หัวเชื้ออาจไม่สามารถกระตุ้นและสร้างเชื้อใหม่ได้ 3.เทคนิคการผลิต ซึ่งจะต้องมีการประเมินผลต่อไป
นพ.วิชัย กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้สอบถามถึงการทดลองเชื้อในไข่ไก่สะอาดของไทยกลับไปที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาแล้ว เพื่อขอคำแนะนำมาตรฐานของการทดลองในไข่ไก่ แต่ตามมาตรฐานของการทดลองเชื้อไวรัสในไข่ไก่พบว่า ในไข่ไก่เยอรมนีสามารถป้องกันเชื้อได้ถึง 31 ชนิด แต่มาตรฐานของไข่ไก่ไทยมีน้อยกว่า ซึ่งหากไม่สามารถแก้ไขได้ และได้ปริมาณเชื้อไวรัสน้อยมากจนไม่สามารถเริ่มการทดลองในคนกลุ่มแรก 24 คน ก็อาจมีผลเลื่อนกระบวนการทดลองวัคซีนในมนุษย์ทั้งระบบออกไปอีก 2 เดือน อย่างไรก็ตาม จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลการทดลองวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กับนานาชาติ ก็พบว่า ส่วนใหญ่ล้วนได้ปริมาณเชื้อไวรัสน้อยเช่นกัน ประมาณ 1 ใน 4 ของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
ในวันเดียวกัน บนเวทีราชดำเนินเสวนา เรื่อง “ไข้หวัดใหญ่ 2009 กับบทเรียนระบบสาธารณสุขไทย” จัดโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายสมบัติ ชูเถื่อน เลขาธิการสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมาการให้ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กับอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ในการลงพื้นที่ให้ความรู้และค้นหาผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 ยังไม่ชัดเจน เอกสารบางอย่างให้ไม่ครบทำให้ไม่สามารถแจกจ่ายกับประชาชนในพื้นที่ได้ ต้องเอางบประมาณในพื้นที่มาจัดพิมพ์เอกสารเพิ่ม และในการค้นหาผู้ป่วยของ อสม.ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขไม่เคยพูดอย่างชัดเจนว่าจะมีการให้ค่าตอบแทน หรือแม้แต่ประกันชีวิตหากเจ้าหน้าที่ อสม.เกิดป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และเสียชีวิต ทำให้กระทบต่อขวัญและกำลังใจ
ท.พ.กฤษฎา เรืองอารีรัชต์ รองผู้จัดการสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ขณะนี้ดูเหมือนว่าการสื่อสารที่สาธารณชนทราบคิดว่าการระบาดลดลง แต่ความจริงแล้วนักวิชาการคาดการณ์ว่าอยู่ในช่วงขาขึ้นของการระบาด ดังนั้น ควรจะสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ เพื่อระมัดระวังไม่ใช่ตื่นตระหนก และหลายหน่วยงานต้องร่วมกันป้องกันไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ สธ.เพียงลำพัง โดยกระทรวงศึกษาธิการมีนักเรียนในความดูแลมากถึง 20 ล้านคน กระทรวงแรงงานมีแรงงานในระบบ 9 ล้านคน และยังมีแรงงานนอกระบบ กระทรวงมหาดไทยก็ควรให้การดูแลป้องกันในระดับชุมชน การสื่อสารเรื่องการระบาดของโรค ประชาชนต้องเข้าใจว่า ทั่วโลกในขณะนี้ยังไม่สามารถหยุดยั้งได้แต่ทำอย่างไรให้โรคมีการระบาดที่ชะลอตัว พบผู้ป่วยน้อยลง เนื่องจากถือเป็นโรคระบาดในสังคมและชุมชนเมือง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ขณะนี้จึงเป็นประชาชนที่อยู่ในเมืองใหญ่