กระทรวงสาธารณสุขจัดกิจกรรมรณรงค์หยุดยั้งภัยหวัดใหญ่ 2009 ถวายแด่พระแม่แห่งแผ่นดิน 12 สิงหาคม 2552 ระดมพลัง อสม.987,019 คน ออกค้นหาผู้ป่วย ให้ความรู้ประชาชนพร้อมกันทั่วประเทศ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านครัวเรือน พร้อมสนับสนุนงบ 62 ล้านบาท เป็นขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล ทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว และ อสม.ในการปฏิบัติงานป้องกันควบคุมโรค
วันนี้ (12 ส.ค.) ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เทศบาลเมืองท่าโขลง อ.คลองหลวง ปทุมธานี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมมอบคู่เมือตรวจคัดกรองกลุ่มที่มีความเสี่ยงอาการรุนแรง ให้กับอาสาสมัครสาธารณสุข 60 ตำบล
นายวิทยากล่าวว่า เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2552 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ระดมพลังอสม.ทั่วประเทศ 987,019 คน จัดกิจกรรมรณรงค์ต้านภัยหวัดใหญ่2009 พร้อมกันทุกจังหวัด ถวายแด่พระแม่แห่งแผ่นดิน เน้นในเขตชุมชนเมืองที่มีประชากรหนาแน่น ซึ่งเกิดการแพร่ระบาดของโรคได้ง่าย เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต กิจกรรมที่รณรงค์ครั้งนี้ เช่น การเดิน การวิ่งออกกำลังกายสร้างสุขภาพ ทำความสะอาดอาคารสถานที่ การให้ความรู้โรคและการตรวจค้นหากลุ่มเสี่ยงอาการป่วยรุนแรง ซึ่งหากพบผู้ที่มีอาการ อสม.จะส่งตัวไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษาทันที คาดจะดำเนินการให้ความรู้ประชาชนในวันนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ของไทย คาดว่าจะระบาดต่อไปอีก 2-3 เดือน โดยขณะนี้โรคได้แพร่กระจายไปทุกจังหวัด เริ่มจากชุมชนเขตเทศบาลก่อน ส่วนคนในชนบทมีโอกาสติดโรคนี้น้อยกว่าคนในเมือง เนื่องจากอยู่ในที่มีอากาศดี สิ่งแวดล้อมไม่แออัด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคนไทยประมาณร้อยละ 99 ยังไม่มีภูมิต้านทานโรคนี้ จึงมีโอกาสติดเชื้อตลอดเวลา และเมื่อมีอาการป่วยแล้ว วิธีลดการแพร่กระจายเชื้อที่ดีที่สุด คือ ผู้ป่วยทุกคนไม่ว่าจะมีอาการรุนแรงหรือไม่ ต้องหยุดงานหยุดเรียนเป็นเวลา 7 วันจนหายป่วย หากผู้ป่วยเป็นข้าราชการ ให้หยุดงาน 7 วัน โดยไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ ส่วนพ่อแม่หากมีลูกป่วย ก็ให้ลาหยุดเฝ้าลูกได้เช่นกันและไม่ถือเป็นวันลา
สำหรับการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของ อสม.ได้ให้ทุกจังหวัดเริ่มดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ สถานีอนามัยตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.2552 ภายใต้ยุทธศาสตร์ คือ “ค้นหาเร็ว ให้เจอผู้ป่วยเร็ว และให้การรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มที่เสี่ยงเกิดอาการรุนแรง เช่น ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง คนอ้วน ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี เด็ก อายุต่ำกว่า 2 ปี และหญิงมีครรภ์ หากมีอาการไข้หวัด แม้เพียงเล็กน้อย อสม. ต้องแจ้งให้ไปพบแพทย์ทันที พร้อมรายงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบ ในกลุ่มประชาชนทั่วไป หากมีอาการไข้หวัดแล้วไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน อสม.ต้องย้ำก็ให้รีบพบแพทย์เช่นกัน ส่วนกลุ่มทั่วไปที่ยังไม่ป่วย อสม.จะแนะนำให้เร่งสร้างวัคซีนแก่ตนเอง ให้เกิดภูมิต้านทานโรค โดยออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมนุมชน หากจำเป็นต้องคาดหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
นายวิทยากล่าวอีกว่า ครม.ได้สนับสนุนงบกลางในเบื้องต้นประมาณ 62 ล้านบาท จัดสรรเป็นค่าตอบแทนและขวัญกำลังใจ แก่บุคลากรทางการแพทย์ ทีมรักษาพยาบาล ทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ ค่าใช้จ่ายเพื่อการสนับสนุนการปฏิบัติงาน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจัดอุปกรณ์ป้องกันตนเองให้เจ้าหน้าที่และประชาชนกลุ่มเสี่ยง นอกจากนี้ ยังจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของ อสม.ด้วย