“กรุณา กุศลาสัย” ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ปี 2546 เจ้าของผลงานเขียน “ชีวิตที่เลือกไม่ได้”เสียชีวิตแล้วด้วยโรคชรา
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552 นายกรุณา กุศลาสัย วัย 89 ปี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2546 ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยโรคชรา ที่บ้านพัก โดยได้มีการบริจาคร่างกายให้แก่โรงพยาบาลศิริราช และทางญาติกำหนดทำพิธีบำเพ็ญกุศลในวันเสาร์ที่ 15 นี้ที่วัดเครือวัลย์วรวิหาร ถ.อรุณอมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่
อนึ่ง นายกรุณา กุศลาสัย เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2463 ที่จังหวัดนครสวรรค์ บรรพบุรุษมีเชื้อสายจีน เป็นกำพร้ามาแต่เด็ก และบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ 13 ปีในโครงการ “พระภิกษุสามเณรใจสิงห์” ของพระโลกนาถ แล้วติดตามพระโลกนาถไปศึกษาที่สาธารณรัฐอินเดีย ได้เรียนรู้ภาษาฮินดี ภาษาสันสกฤต และภาษาอังกฤษจนเชี่ยวชาญ สอบภาษาฮินดีได้ที่ 1 ของสาธารณรัฐอินเดีย ได้รับทุนการศึกษาจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เมื่ออายุเพียง 15 ปี
เริ่มงานเขียนตั้งแต่ยังเป็นสามเณรอยู่ในประเทศอินเดีย ใช้นามปากกา “สามเณรไทยในสารนาถ” เขียนบทความลงในธรรมจักษุ พุทธศาสนา และ ประชาชาติ เมื่อเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 2 นายกรุณา ถูกจับเป็นเชลยสงคราม เผชิญกับความอดอยากแสนสาหัส จนต้องสึกจากสามเณร เมื่อสงครามสงบได้ตัดสินใจกลับประเทศไทยเพราะคิดถึงบ้านเกิด ความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับจากสาธารณรัฐอินเดียทำให้ นายกรุณา กุศลาสัย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภารตวิทยาอย่างยิ่งจนเป็นพื้นฐานสำคัญให้สามารถแปลแต่งวรรณกรรมชิ้นเอกของอินเดียคือ มหากาพย์พุทธจริต ซึ่งเป็นวรรณคดีสันสกฤตพุทธประวัติฝ่ายมหายานที่มีชื่อเสียงของอัศวโฆษร่วมกับนางเรืองอุไร กุศลาสัย ภรรยา และมหาภารตยุทธ มหากาพย์เรื่องยิ่งใหญ่ของอินเดีย นอกจากนั้น ยังสร้างสรรค์วรรณกรรมที่ทรงคุณค่าอีกมากในระหว่างที่ถูกคุมขังด้วยข้อหาทางการเมือง เขียนบทความสั้นๆ เกี่ยวกับวรรณคดี วัฒนธรรมอินเดีย ทั้งได้แปลแต่งวรรณคดีชั้นเยี่ยมของอินเดียจำนวนมาก ที่สำคัญ ได้แก่ คีตาญชลี พบถิ่นอินเดีย ชีวประวัติของข้าพเจ้า และ แด่นักศึกษา ฯลฯ ส่วนสารคดีเรื่องเด่นของ กรุณา กุศลาสัย คือ อัตชีวประวัติ เรื่อง ชีวิตที่เลือกไม่ได้ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงบันทึกชีวิตของผู้เขียนเท่านั้น แต่เป็นอนุสรณ์ของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า อันยังประโยชน์แก่ผู้อ่านทั้งปวง
ผลงานสร้างสรรค์ของ กรุณา กุศลาสัย จึงมีคุณค่าทางปัญญาและปรัชญาที่มีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ นับเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ภาษาไทยอย่างยิ่งทั้งที่เรียบง่ายและวิจิตรอลังการ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่า 60 ปี
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552 นายกรุณา กุศลาสัย วัย 89 ปี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2546 ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยโรคชรา ที่บ้านพัก โดยได้มีการบริจาคร่างกายให้แก่โรงพยาบาลศิริราช และทางญาติกำหนดทำพิธีบำเพ็ญกุศลในวันเสาร์ที่ 15 นี้ที่วัดเครือวัลย์วรวิหาร ถ.อรุณอมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่
อนึ่ง นายกรุณา กุศลาสัย เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2463 ที่จังหวัดนครสวรรค์ บรรพบุรุษมีเชื้อสายจีน เป็นกำพร้ามาแต่เด็ก และบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ 13 ปีในโครงการ “พระภิกษุสามเณรใจสิงห์” ของพระโลกนาถ แล้วติดตามพระโลกนาถไปศึกษาที่สาธารณรัฐอินเดีย ได้เรียนรู้ภาษาฮินดี ภาษาสันสกฤต และภาษาอังกฤษจนเชี่ยวชาญ สอบภาษาฮินดีได้ที่ 1 ของสาธารณรัฐอินเดีย ได้รับทุนการศึกษาจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เมื่ออายุเพียง 15 ปี
เริ่มงานเขียนตั้งแต่ยังเป็นสามเณรอยู่ในประเทศอินเดีย ใช้นามปากกา “สามเณรไทยในสารนาถ” เขียนบทความลงในธรรมจักษุ พุทธศาสนา และ ประชาชาติ เมื่อเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 2 นายกรุณา ถูกจับเป็นเชลยสงคราม เผชิญกับความอดอยากแสนสาหัส จนต้องสึกจากสามเณร เมื่อสงครามสงบได้ตัดสินใจกลับประเทศไทยเพราะคิดถึงบ้านเกิด ความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับจากสาธารณรัฐอินเดียทำให้ นายกรุณา กุศลาสัย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภารตวิทยาอย่างยิ่งจนเป็นพื้นฐานสำคัญให้สามารถแปลแต่งวรรณกรรมชิ้นเอกของอินเดียคือ มหากาพย์พุทธจริต ซึ่งเป็นวรรณคดีสันสกฤตพุทธประวัติฝ่ายมหายานที่มีชื่อเสียงของอัศวโฆษร่วมกับนางเรืองอุไร กุศลาสัย ภรรยา และมหาภารตยุทธ มหากาพย์เรื่องยิ่งใหญ่ของอินเดีย นอกจากนั้น ยังสร้างสรรค์วรรณกรรมที่ทรงคุณค่าอีกมากในระหว่างที่ถูกคุมขังด้วยข้อหาทางการเมือง เขียนบทความสั้นๆ เกี่ยวกับวรรณคดี วัฒนธรรมอินเดีย ทั้งได้แปลแต่งวรรณคดีชั้นเยี่ยมของอินเดียจำนวนมาก ที่สำคัญ ได้แก่ คีตาญชลี พบถิ่นอินเดีย ชีวประวัติของข้าพเจ้า และ แด่นักศึกษา ฯลฯ ส่วนสารคดีเรื่องเด่นของ กรุณา กุศลาสัย คือ อัตชีวประวัติ เรื่อง ชีวิตที่เลือกไม่ได้ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงบันทึกชีวิตของผู้เขียนเท่านั้น แต่เป็นอนุสรณ์ของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า อันยังประโยชน์แก่ผู้อ่านทั้งปวง
ผลงานสร้างสรรค์ของ กรุณา กุศลาสัย จึงมีคุณค่าทางปัญญาและปรัชญาที่มีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ นับเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ภาษาไทยอย่างยิ่งทั้งที่เรียบง่ายและวิจิตรอลังการ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่า 60 ปี