มหา’ลัย ประสานเสียงหนุน ศธ.กำหนดเกณฑ์คุณวุฒิวิชาชีพ ตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ชี้เป็นเรื่องดี กระตุ้นเด็กสนใจเรียนสายช่าง ผลิตแรงงานตรงความต้องการผู้ประกอบการ แนะภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยกำหนดหลักเกณฑ์ชัดเจน เป็นธรรมหวั่นได้ช่างฝีมือมีความสามารถ แต่เรียกค่าตอบแทนเยอะ เอาเปรียบผู้ใช้บริการ
รศ.ดร.ไกรวุฒิ เกียรติโกมล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เร่งดำเนินการจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยในการช่วยกำหนดหลักเกณฑ์ที่จะผลิตบุคลากรตรงตามความต้องการของสถานประกอบ ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ ศธ.เห็นความสำคัญในการจัดตั้งสถาบันดังกล่าว เพราะมีการพูดคุยเรื่องนี้มานาน แต่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม ทั้งๆ ที่กลุ่มสายอาชีพช่าง ถือเป็นแรงงานที่มีความสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของประเทศ อีกทั้งยังมีช่างฝีมือจำนวนมาก ที่ไม่มีคุณวุฒิทางวิชาการ แต่มีความสามารถทางวิชาชีพ การจัดตั้งสถาบันจึงเป็นการช่วยผู้ที่อยู่ในสายช่างให้ได้รับการยอมรับ และได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น
“การจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มหาวิทยาลัยยินดีช่วยกำหนดหลักเกณฑ์ในการผลิตบุคลากร แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับสภาวิชาชีพ และผู้ประกอบการด้วย เพราะหากต่างคนต่างกำหนด มาตรฐานที่ได้คงไม่ตรงกัน และหากกำหนดคุณวุฒิมาตรฐานแล้ว หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องติดตามช่างด้วยว่ารับผิดชอบต่อผู้ใช้บริการหรือไม่ เพราะอาจกลายเป็นหนทางหนึ่งในการเรียกค่าตอบแทนจากผู้ใช้บริการที่สูงขึ้น” อธิการบดี มจธ.กล่าว
รศ.ดร.วินิจ โชติสว่าง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน กล่าวว่า มทร.ทั้ง 9 แห่ง ได้มีการกำหนดลักษณะของบัณฑิตที่จบออกไป ให้ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการอยู่แล้ว ดังนั้น หาก ศธ.ขอความร่วมมือ เชื่อว่า มหาวิทยาลัยทุกแห่งมีข้อมูลอยู่แล้ว อีกทั้งการจัดตั้งสถาบันดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะนอกจากช่วยยกระดับคุณภาพวิชาชีพของผู้ประกอบอาชีพสายช่าง ทำให้ช่างฝีมือของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับแล้ว ยังกระตุ้นให้เด็กไทยหันมาสนใจเรียนวิชาชีพช่างมากขึ้น และคนที่ไม่ได้จบจากสถาบันการศึกษา ไม่มีคุณวุฒิวิชาการ แต่มีความสามารถในการปฏิบัติงานจริง ที่ไม่ได้รับการยอมรับอยู่ตอนนี้ จะได้รับการยอมรับมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การกำหนดคุณวุฒิดังกล่าว อยากให้คณะกรรมการหน่วยงาน ผู้เชี่ยวชาญที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน และเป็นธรรมต่อทุกๆ ฝ่ายด้วย เพราะส่วนหนึ่งเมื่อช่างฝีมือมีคุณภาพมากขึ้น ก็ต้องได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น ขณะเดียวกัน การเรียกร้องค่าตอบแทนก็ต้องไม่เป็นการเอาเปรียบผู้ใช้บริการ หรือสถานประกอบการด้วย
รศ.ดร.กอบชัย เดชหาญ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่มีการจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเปรียบเสมือนสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน เพราะคนในสายช่างจะได้มีตัวบ่งชี้ถึงความสามารถ ที่ส่งผลต่อการยกระดับตำแหน่งทางการงาน และเงินเดือน แต่การยกระดับสายช่าง ก็ต้องเน้นเรื่องคุณธรรมจริยธรรม และหัวใจในการบริการร่วมด้วย เพราะไม่เช่นนั้นเมื่อยกระดับความรู้ คุณภาพทางวิชาการ อาจเป็นช่องทางให้ช่างสายต่างๆ เอาเปรียบผู้บริโภค หรือผู้ที่ใช้บริการได้
รศ.ดร.ไกรวุฒิ เกียรติโกมล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เร่งดำเนินการจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยในการช่วยกำหนดหลักเกณฑ์ที่จะผลิตบุคลากรตรงตามความต้องการของสถานประกอบ ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ ศธ.เห็นความสำคัญในการจัดตั้งสถาบันดังกล่าว เพราะมีการพูดคุยเรื่องนี้มานาน แต่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม ทั้งๆ ที่กลุ่มสายอาชีพช่าง ถือเป็นแรงงานที่มีความสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของประเทศ อีกทั้งยังมีช่างฝีมือจำนวนมาก ที่ไม่มีคุณวุฒิทางวิชาการ แต่มีความสามารถทางวิชาชีพ การจัดตั้งสถาบันจึงเป็นการช่วยผู้ที่อยู่ในสายช่างให้ได้รับการยอมรับ และได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น
“การจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มหาวิทยาลัยยินดีช่วยกำหนดหลักเกณฑ์ในการผลิตบุคลากร แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับสภาวิชาชีพ และผู้ประกอบการด้วย เพราะหากต่างคนต่างกำหนด มาตรฐานที่ได้คงไม่ตรงกัน และหากกำหนดคุณวุฒิมาตรฐานแล้ว หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องติดตามช่างด้วยว่ารับผิดชอบต่อผู้ใช้บริการหรือไม่ เพราะอาจกลายเป็นหนทางหนึ่งในการเรียกค่าตอบแทนจากผู้ใช้บริการที่สูงขึ้น” อธิการบดี มจธ.กล่าว
รศ.ดร.วินิจ โชติสว่าง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน กล่าวว่า มทร.ทั้ง 9 แห่ง ได้มีการกำหนดลักษณะของบัณฑิตที่จบออกไป ให้ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการอยู่แล้ว ดังนั้น หาก ศธ.ขอความร่วมมือ เชื่อว่า มหาวิทยาลัยทุกแห่งมีข้อมูลอยู่แล้ว อีกทั้งการจัดตั้งสถาบันดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะนอกจากช่วยยกระดับคุณภาพวิชาชีพของผู้ประกอบอาชีพสายช่าง ทำให้ช่างฝีมือของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับแล้ว ยังกระตุ้นให้เด็กไทยหันมาสนใจเรียนวิชาชีพช่างมากขึ้น และคนที่ไม่ได้จบจากสถาบันการศึกษา ไม่มีคุณวุฒิวิชาการ แต่มีความสามารถในการปฏิบัติงานจริง ที่ไม่ได้รับการยอมรับอยู่ตอนนี้ จะได้รับการยอมรับมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การกำหนดคุณวุฒิดังกล่าว อยากให้คณะกรรมการหน่วยงาน ผู้เชี่ยวชาญที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน และเป็นธรรมต่อทุกๆ ฝ่ายด้วย เพราะส่วนหนึ่งเมื่อช่างฝีมือมีคุณภาพมากขึ้น ก็ต้องได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น ขณะเดียวกัน การเรียกร้องค่าตอบแทนก็ต้องไม่เป็นการเอาเปรียบผู้ใช้บริการ หรือสถานประกอบการด้วย
รศ.ดร.กอบชัย เดชหาญ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่มีการจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเปรียบเสมือนสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน เพราะคนในสายช่างจะได้มีตัวบ่งชี้ถึงความสามารถ ที่ส่งผลต่อการยกระดับตำแหน่งทางการงาน และเงินเดือน แต่การยกระดับสายช่าง ก็ต้องเน้นเรื่องคุณธรรมจริยธรรม และหัวใจในการบริการร่วมด้วย เพราะไม่เช่นนั้นเมื่อยกระดับความรู้ คุณภาพทางวิชาการ อาจเป็นช่องทางให้ช่างสายต่างๆ เอาเปรียบผู้บริโภค หรือผู้ที่ใช้บริการได้
