กทม.เลื่อนปรับภาพลักษณ์แผงค้าหาบเร่แผงลอยใหม่ไปอีก 1 เดือน หลังเจอปัญหาแผงของผู้ค้ามีขนาดไม่เท่ากัน ทำเอกชนปวดหัวต้องทำให้เท่ากับของเดิม ขณะที่ กทม.ไม่กล้ายุ่งเพราะกลัวมีปัญหารับกับชาวบ้าน
หลังจากที่ กทม.ได้ดำเนินดำเนินโครงการปรับภูมิทัศน์พื้นที่ผู้ค้าแผงลอย ให้มีความสวยงาม และเป็นระเบียบ โดยจะทำนำร่องพื้นที่เขตคลองเตย และเขตวัฒนา จำนวน 100 แผง โดยร่วมกับบริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งตามแผนการดำเนินงานในวันที่ 27 ก.ค.นี้ บริษัท วีซ่า ต้องทำโครงแผงค้าแบบถอดประกอบได้แล้วเสร็จ และเตรียมส่งมอบให้กับ กทม.ต้นเดือน ส.ค.นี้ ล่าสุด นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า ทางบริษัท วีซ่า ได้ขอเลื่อนออกไป 1 เดือน เนื่องจากว่าเกิดการล่าช้าในขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนของแผงค้า ที่ต้องมีการแก้ไขแบบจากเดิมที่ได้กำหนดไว้เป็นมาตรฐานแล้ว ซึ่งขนาดของแผงค้าที่ไม่เหมือนกันนั้นจากการตรวจสอบจากใบอนุญาตทำการค้าในพื้นที่สาธารณะ พบว่า มีแผงค้าที่ต่างขนาดมากถึง 60 แผง ทั้งนี้ กทม.คงไม่เข้าไปดำเนินการปรับลดแผงค้าของผู้ค้าดังกล่าว เพราะผู้ค้ามีใบอนุญาตและค้าขายในพื้นที่ดังกล่าวมานานหลายปีแล้ว ซึ่งหาก กทม.เข้าไปดำเนินการเปลี่ยนแปลงอะไร ก็อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ค้าได้
นางทยา กล่าวด้วยว่า ปัญหาดังกล่าวในการดำเนินโครงการเฟสต่อไป คณะทำงานอาจจะต้องเข้าไปหารือกับผู้ค้าถึงรูปแบบและมาตรฐานของแผงค้าด้วย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการหลังที่ได้ดำเนินการเฟสแรกแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2552 นี้
หลังจากที่ กทม.ได้ดำเนินดำเนินโครงการปรับภูมิทัศน์พื้นที่ผู้ค้าแผงลอย ให้มีความสวยงาม และเป็นระเบียบ โดยจะทำนำร่องพื้นที่เขตคลองเตย และเขตวัฒนา จำนวน 100 แผง โดยร่วมกับบริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งตามแผนการดำเนินงานในวันที่ 27 ก.ค.นี้ บริษัท วีซ่า ต้องทำโครงแผงค้าแบบถอดประกอบได้แล้วเสร็จ และเตรียมส่งมอบให้กับ กทม.ต้นเดือน ส.ค.นี้ ล่าสุด นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า ทางบริษัท วีซ่า ได้ขอเลื่อนออกไป 1 เดือน เนื่องจากว่าเกิดการล่าช้าในขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนของแผงค้า ที่ต้องมีการแก้ไขแบบจากเดิมที่ได้กำหนดไว้เป็นมาตรฐานแล้ว ซึ่งขนาดของแผงค้าที่ไม่เหมือนกันนั้นจากการตรวจสอบจากใบอนุญาตทำการค้าในพื้นที่สาธารณะ พบว่า มีแผงค้าที่ต่างขนาดมากถึง 60 แผง ทั้งนี้ กทม.คงไม่เข้าไปดำเนินการปรับลดแผงค้าของผู้ค้าดังกล่าว เพราะผู้ค้ามีใบอนุญาตและค้าขายในพื้นที่ดังกล่าวมานานหลายปีแล้ว ซึ่งหาก กทม.เข้าไปดำเนินการเปลี่ยนแปลงอะไร ก็อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ค้าได้
นางทยา กล่าวด้วยว่า ปัญหาดังกล่าวในการดำเนินโครงการเฟสต่อไป คณะทำงานอาจจะต้องเข้าไปหารือกับผู้ค้าถึงรูปแบบและมาตรฐานของแผงค้าด้วย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการหลังที่ได้ดำเนินการเฟสแรกแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2552 นี้