เด็กไทยเจ๋ง เข้าแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิกที่เบรเมน เยอรมันี ซิวเหรียญกลับบ้านเกิด 1 ทอง 5 เงิน โดยทำคะแนนรวมได้เป็นอันดับที่ 7 ของโลกจากประเทศที่เข้าแข่งขันทั้งสิ้น 104 ประเทศ
น.ส.นารี วงศ์สิโรจน์กุล รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) แจ้งว่าตามที่ สสวท.ได้คัดเลือกและจัดส่งคณะผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี 2552 จำนวน 6 คน ระหว่างวันที่ 10-22 กรกฎาคม 2552 ณ เมืองเบรเมน ประเทศเยอรมนี
ผลปรากฏว่า ผู้แทนประเทศไทยทำได้ 1 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน โดยทำคะแนนรวมได้เป็นอันดับที่ 7 ของโลกจากประเทศที่เข้าแข่งขันทั้งสิ้น 104 ประเทศ จากฝีมือของนายสุธี เรืองวิเศษ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้รางวัลเหรียญทอง, นายธนาตย์ คุรุธัช โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้รับรางวัลเหรียญเงิน, นายพงศ์ภัค ภูมิวัฒน์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้รางวัลเหรียญเงิน, นายศุภณัฐ คำตื้อ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้รางวัลเหรียญเงิน, นายภควุฒิ จิรดิลก โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก ได้รางวัลเหรียญเงิน และด.ช.นิปุณ ปิติมานะอารี โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ได้รับรางวัลเหรียญเงิน
โดยในการแข่งขันครั้งนี้ประเทศที่ทำคะแนนรวมได้เป็นอันดับ 1 คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน อันดับ 2 คือ ญี่ปุ่น และอันดับ 3 รัสเซีย ด้านคณะผู้แทนประเทศไทยฯ จะเดินทางกลับถึงไทยในวันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2552 เที่ยวบิน TG 923 เวลา 12.55 น. สสวท.จะมีพิธีต้อนรับคณะผู้แทนประเทศไทยฯ ตามกำหนดดังกล่าว ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ชั้น 2 ด้านใน ประตูที่ 5
สำหรับเยาวชนคนเก่งผู้คว้าเหรียญทองปีล่าสุด อย่าง นายสุธี เรืองวิเศษ หรือน้องทีม วัย 17 ปี ซึ่งที่ผ่านมาเคยคว้าเหรียญเงินคณิตศาสตร์โอลิมปิก เมื่อ พ.ศ.2550 จากเวียดนาม และเหรียญเงินคณิตศาสตร์โอลิมปิก เมื่อ พ.ศ.2551 จากสเปน ให้ข้อคิดว่าอยากเห็นคุณครูสอนคณิตศาสตร์โดยโยงเข้ากับชีวิตประจำวันและธรรมชาติรอบตัวเรา ทำให้เด็กๆ สนุกสนานและเห็นความสวยงามและความสำคัญของคณิตศาสตร์อย่างชัดเจน และเปิดเผยเป้าหมายในอนาคตของตนเองว่าจะเรียนต่อด้านคณิตศาสตร์ที่ต่างประเทศเพื่อนำความรู้กลับมาทำงานพัฒนาประเทศของเราให้มากที่สุด
ในขณะที่ ด.ช.นิปุณ ปิติมานะอารีย์ หรือน้องดิสนีย์ วัย 14 ปี เห็นว่าโอลิมปิกวิชาการส่งเสริมให้เด็กรุ่นใหม่สนใจเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์มากขึ้น ดูได้จากปัจจุบันมีเด็กเข้าร่วมแข่งขันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เด็กหันมาสนใจเรียนด้านนี้ยิ่งขึ้น ดิสนีย์เล่าประสบการณ์เรียนดีแบบไม่กดดันตัวเองว่าเมื่อก่อนเคยทำข้อสอบแล้วเครียดมากที่ทำไม่ได้บางครั้งถึงกับปวดหัว แต่ตอนนี้รู้วิธีแก้แล้วคืออย่าไปเครียด ทำให้ดีที่สุดก็พอ เพราะความเครียดไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่ถ้าไม่เครียดจะเรียนได้อย่างมีความสุข
ส่วน นายภควุฒิ จิรดิลก หรือน้องโปร วัย 15 ปี เห็นว่าโอลิมปิกวิชาการมีส่วนช่วยส่งเสริมการเรียนคณิตศาสตร์มาก ทำให้กระตือรือร้น สนใจเรียนคณิตศาสตร์มากขึ้น ดีใจมากที่ได้เป็นผู้แทนประเทศไทย ก่อนไปแข่งขันได้ เตรียมตัวโดยฝึกทำโจทย์มาก ๆ อนาคตตั้งใจอย่ากเรียนต่อด้านคณิตศาสตร์และนำความรู้กลับมาพัฒนาประเทศ
ด้าน “น็อด” นายธนาตย์ คุรุธัช วัย 15 ปี เผยว่า หลักการเรียนดีของตนเองก็คือ ต้องไม่เครียด อย่ากดดันตนเอง ชอบในสิ่งที่เรียนและใช้ความพยายามมากๆ ได้ร่วมแบ่งปันความรู้โดยช่วยสอนเพื่อนๆ ที่ไม่เข้าใจบทเรียนหรือถ้ามีโจทย์ปัญหามาถามก็จะช่วยสอน น้องน็อดย้ำว่าคนที่ยืนเคียงข้างอยู่เสมอทั้งในยามสมหวังและผิดหวัง เป็นกำลังใจให้ก้าวไปข้างหน้าก็คือ คุณพ่อ คุณแม่ ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากในการเรียนดีของลูก
สำหรับ นายพงศ์ภัค ภูมิวัฒน์ หรือน้องภู เล่าว่า ตอนเด็กๆ คุณแม่ซื้อหนังสือคณิตศาสตร์หรือนิทานมาให้อ่านและฝึกทำโจทย์เสมอ ทำให้มีทักษะในการคิดเลขและอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อเวลาที่เริ่มท้อ ขาดสมาธิในการทำงาน คุณพ่อคุณแม่ก็จะให้กำลังใจและเตือนสติอยู่ตลอด เข้าโครงการโอลิมปิกวิชาการเพราะชอบคณิตศาสตร์ตั้งแต่เด็กเมื่อมีการแข่งขันจึงสนใจอยากได้ความรู้ที่แปลกใหม่และได้คิดวิเคราะห์มากขึ้น การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการทำให้เด็กมีแรงจูงใจในการเรียนวิชาที่ถนัดอย่างเต็มที่
และปิดท้ายที่ นายศุภณัฐ คำตี้ หรือ “การ์ฟิลด์” วัย 17 ปี เจ้าของเหรียญเงินคณิตศาสตร์โอลิมปิกในปีนี้ และปี 2551 จากสเปนด้วย เผยว่าครอบครัวเปิดโอกาสให้เลือกเส้นทางอนาคตของตัวเองได้ตามใจรัก จึงมีอิสระที่จะเรียนในสิ่งที่ชอบ ซึ่งตนเองชอบคณิตศาสตร์เพราะเป็นวิชาที่ว่าด้วยเหตุผล มีความสวยงามน่าศึกษา ทำให้เลือกแข่งขันโอลิมปิกวิชานี้เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นนักคณิตศาสตร์ในวันหน้า อนาคตฝันอยากเป็นอาจารย์ถ่ายทอดความรู้ให้คนรุ่นใหม่หรืออาจเป็นนักวิทยาศาสตร์เป็นผู้กตัญญูต่อแผ่นดิน
