“จุรินทร์” เผยที่ประชุม กช.เห็นชอบร่างประกาศ 3 ฉบับ ทั้งการอุดหนุนทางการเงิน ค่าก่อสร้างปรับปรุงอาคาร โรงเรียนเอกชน พร้อมปรับหลักเกณฑ์เงินกู้กองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบจาก 60% เป็น 80% อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ขณะที่ ร.ร.เอกชนสอนศาสนาอิสลาม เตรียมออกประกาศ สช.ออกมารองรับให้กู้เงินตามหลักเกณฑ์ทางศาสนา
วันนี้ (15 ก.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบร่างประกาศ กช.3 ฉบับ ได้แก่ 1.หลักเกณฑ์การอุดหนุนทางการเงิน เป็นค่าก่อสร้างและปรับปรุงอาคารเรียน ของโรงเรียนการกุศล เพื่อให้โรงเรียนเอกชนการกุศลสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ง่ายขึ้น เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของโรงเรียนและลดงบประมาณลง 2.หลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการกู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะให้โรงเรียนเอกชนสามารถกู้เงินเพิ่มขึ้นจากเดิมให้กู้ 60% ของหลักทรัพย์ ต่อไปจะมีการปรับให้กู้ได้ถึง 80% ของหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในการกู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ และโรงเรียนที่มีสิทธิ์กู้นั้นจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 3 ปี ทั้งนี้เพื่อให้เป็นข้อพิสูจน์ว่าสามารถยืนอยู่ได้ในระยะหนึ่ง โดยเสียอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 และ 3.การออกประกาศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ฉบับใหม่ในการกำหนดประเภท และระดับของโรงเรียนในระบบ ให้มีการเพิ่มโรงเรียนเอกชนการกุศลในระดับสามัญและอาชีวศึกษา
อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจะมีประกาศ สช.อีกฉบับออกมารองรับ เพื่อเปิดโอกาสให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามทั่วประเทศ ไม่จำกัดพื้นที่ สามารถใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบได้ตามหลักเกณฑ์ทางศาสนา
วันนี้ (15 ก.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบร่างประกาศ กช.3 ฉบับ ได้แก่ 1.หลักเกณฑ์การอุดหนุนทางการเงิน เป็นค่าก่อสร้างและปรับปรุงอาคารเรียน ของโรงเรียนการกุศล เพื่อให้โรงเรียนเอกชนการกุศลสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ง่ายขึ้น เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของโรงเรียนและลดงบประมาณลง 2.หลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการกู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะให้โรงเรียนเอกชนสามารถกู้เงินเพิ่มขึ้นจากเดิมให้กู้ 60% ของหลักทรัพย์ ต่อไปจะมีการปรับให้กู้ได้ถึง 80% ของหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในการกู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ และโรงเรียนที่มีสิทธิ์กู้นั้นจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 3 ปี ทั้งนี้เพื่อให้เป็นข้อพิสูจน์ว่าสามารถยืนอยู่ได้ในระยะหนึ่ง โดยเสียอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 และ 3.การออกประกาศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ฉบับใหม่ในการกำหนดประเภท และระดับของโรงเรียนในระบบ ให้มีการเพิ่มโรงเรียนเอกชนการกุศลในระดับสามัญและอาชีวศึกษา
อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจะมีประกาศ สช.อีกฉบับออกมารองรับ เพื่อเปิดโอกาสให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามทั่วประเทศ ไม่จำกัดพื้นที่ สามารถใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบได้ตามหลักเกณฑ์ทางศาสนา