xs
xsm
sm
md
lg

นศ.เงินกู้ กยศ.รับเงินแล้ว ร้อยละ 70

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
ผอ.ฝ่ายบริหารโครงการภาครัฐแบงก์กรุงไทย เผยโอนเงิน กยศ.ทั้งในส่วนของค่าครองชีพ และค่าเล่าเรียนไปแล้วจำนวนกว่า 4,800 ล้านบาท โดยในส่วนของเงินค่าครองชีพ ได้โอนเงินให้นักเรียน นักศึกษา ไปแล้วกว่า 626,000 ราย รวมเป็นเงินกว่า 2,100 ล้านบาท ส่วนค่าเล่าเรียนได้โอนเงินให้สถานศึกษาไปแล้วเกือบ 700 แห่ง เป็นเงินกว่า 2,700 ล้านบาท คิดเป็น 70%

นายบุญชัย ศศิวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารฝ่าย ฝ่ายบริหารโครงการภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2552 เมื่อวันที่ 1 พ.ค.-13 ก.ค.ธนาคารกรุงไทยได้โอนเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้กับนักเรียน นักศึกษาที่ยื่นกู้ ทั้งในส่วนของค่าครองชีพ และค่าเล่าเรียนไปแล้วจำนวนกว่า 4,800 ล้านบาท โดยในส่วนของเงินค่าครองชีพ ได้โอนเงินให้นักเรียน นักศึกษา ไปแล้วกว่า 626,000 ราย รวมเป็นเงินกว่า 2,100 ล้านบาท ส่วนค่าเล่าเรียนได้โอนเงินให้สถานศึกษาไปแล้วเกือบ 700 แห่ง เป็นเงินกว่า 2,700 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 30 ยังอยู่ระหว่างรอเอกสารสัญญาเงินกู้ที่สถานศึกษา และนักเรียน นักศึกษาบางส่วนยังส่งมาไม่ครบถ้วน

ทั้งนี้ ปีนี้การโอนเงิน กยศ.ให้กับผู้กู้ สามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพราะทำด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น หากนำส่งข้อมูลต่างๆ เข้ามาที่ธนาคารเรียบร้อย จะสามารถโอนให้นักเรียน นักศึกษา ได้ภายในไม่เกิน 3 วัน อย่างไรก็ตาม นักเรียน นักศึกษา จะต้องมีบัญชีที่ถูกต้องเพื่อรองรับเงินโอนด้วย เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาผู้กู้บางส่วน เมื่อธนาคารโอนเงินไปแล้ว เงินเข้าไม่ได้ เพราะบัญชีถูกปิด หรือมีการเปลี่ยนบัญชี ซึ่งได้ประสานให้มีการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว

ส่วนการดำเนินโครงการชำระหนี้ ชิงรางวัล ที่ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ กยศ.จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 พ.ค.-25 มิ.ย.เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมการชำระหนี้ของผู้กู้ที่ครบกำหนดชำระหนี้ ตั้งแต่ปี 2542-2552 ให้ชำระหนี้เร็วขึ้น เพื่อลดปัญหาความแออัดนั้น นายบุญชัย กล่าวว่า มีผู้กู้เข้าร่วมโครงการ มาชำระหนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวจำนวน 180,600 ราย เพิ่มขึ้นถึง 46,000 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งมีจำนวนประมาณ 134,000 ราย หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 34 ได้เม็ดเงินเข้ามาในกองทุน กยศ.643 ล้าน 6 แสนบาท เพิ่มขึ้น 189 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งได้ 534 ล้าน 7 แสนบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.37 นับว่าประสบความสำเร็จอย่างดี ซึ่งจะได้ประเมินผลเสนอผู้บริหาร และคาดว่า จะมีการดำเนินโครงการนี้อีกในปีหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น