อภ.สั่งซื้อวัคซีนจากซาโนฟี่ปาสเตอร์ 1 ล้านโดสราคา 300 ล้านบาท ได้วัคซีน ต.ค.นี้ เตรียมล็อต 2 เดือน ม.ค.53
นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ขณะนี้ อภ.ได้เตรียมสั่งซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จากบริษัทยา 2 แห่ง โดยซื้อจากบริษัท ซาโนฟี่ ปาสเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ร่วมทุนของ อภ.ในการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลอยู่แล้ว โดยเสนอขายในราคา 5 ยูโร หรือประมาณ 250 บาทต่อโดส โดยของบประมาณจากรัฐบาลเพื่อสั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว จำนวน 300 ล้านบาท สำหรับวัคซีนทั้งสิ้น 1 ล้านโดส ซึ่งจะส่งวัคซีนให้ประมาณเดือน ต.ค. ทั้งนี้จะมีการลงนามสัญญาประมาณสัปดาห์หน้า
“นอกจากนี้ ได้เตรียมการสั่งวัคซีนเพิ่มเติมอีกจากบริษัท แกล็คโซ สมิธ ไคลน์ หรือจีเอสเค ในราคา 4.5 ยูโร หรือประมาณ 225บาทต่อโดส แต่จะสามารถส่งมอบวัคซีนให้ได้ในเดือนม.ค.2553 ขณะเดียวกันอภ.เตรียมเดินหน้าการผลิตวัคซีนเพื่อพึ่งพาตัวเอง”นพ.วิชัย กล่าว
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า อภ.มีโครงการในการพึ่งพาตัวเองในการผลิตวัคซีน โดยมีโครงการความร่วมมือห้องปฏิบัติการอาคารปฏิบัติการควบคุมและประเมินคุณภาพทางเภสัชศาสตร์และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร จ.นครปฐม ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบนำร่องที่มีการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ครบวงจร โดย อภ.ได้รับทุนจากองค์การอนามัยโลก ให้นำร่องการผลิตวัคซีน มีกำลังการผลิตได้มากถึง 2.5-2.8 ล้านโดสต่อเดือน
“นอกจากนี้ ได้หาแหล่งผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ภายในประเทศเพิ่มเติม เพื่อช่วย อภ.ในการผลิต หากจำเป็นต้องใช้วัคซีนในปริมาณมากจนอภ.ผลิตไม่ทัน ซึ่งหากหาโรงงานผลิตเพิ่มเติมได้อีกจะทำให้ศักยภาพในการผลิตวัคซีนเพิ่มเป็นประมาณ 7.5-8.4 ล้านโดสต่อเดือนซึ่งคาดว่าเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ” นพ.วิทิต กล่าว
นพ.วิทิต กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อ อภ.ผลิตวัคซีนได้จะส่งมอบให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่ในการกระจายวัคซีนให้กับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าในการปรับปรุงโรงงานผลิตวัคซีนนำร่องที่ จ.นครปฐม ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกเหลือแต่เพียงเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ขณะนี้ อภ.ได้เตรียมสั่งซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จากบริษัทยา 2 แห่ง โดยซื้อจากบริษัท ซาโนฟี่ ปาสเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ร่วมทุนของ อภ.ในการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลอยู่แล้ว โดยเสนอขายในราคา 5 ยูโร หรือประมาณ 250 บาทต่อโดส โดยของบประมาณจากรัฐบาลเพื่อสั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว จำนวน 300 ล้านบาท สำหรับวัคซีนทั้งสิ้น 1 ล้านโดส ซึ่งจะส่งวัคซีนให้ประมาณเดือน ต.ค. ทั้งนี้จะมีการลงนามสัญญาประมาณสัปดาห์หน้า
“นอกจากนี้ ได้เตรียมการสั่งวัคซีนเพิ่มเติมอีกจากบริษัท แกล็คโซ สมิธ ไคลน์ หรือจีเอสเค ในราคา 4.5 ยูโร หรือประมาณ 225บาทต่อโดส แต่จะสามารถส่งมอบวัคซีนให้ได้ในเดือนม.ค.2553 ขณะเดียวกันอภ.เตรียมเดินหน้าการผลิตวัคซีนเพื่อพึ่งพาตัวเอง”นพ.วิชัย กล่าว
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า อภ.มีโครงการในการพึ่งพาตัวเองในการผลิตวัคซีน โดยมีโครงการความร่วมมือห้องปฏิบัติการอาคารปฏิบัติการควบคุมและประเมินคุณภาพทางเภสัชศาสตร์และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร จ.นครปฐม ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบนำร่องที่มีการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ครบวงจร โดย อภ.ได้รับทุนจากองค์การอนามัยโลก ให้นำร่องการผลิตวัคซีน มีกำลังการผลิตได้มากถึง 2.5-2.8 ล้านโดสต่อเดือน
“นอกจากนี้ ได้หาแหล่งผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ภายในประเทศเพิ่มเติม เพื่อช่วย อภ.ในการผลิต หากจำเป็นต้องใช้วัคซีนในปริมาณมากจนอภ.ผลิตไม่ทัน ซึ่งหากหาโรงงานผลิตเพิ่มเติมได้อีกจะทำให้ศักยภาพในการผลิตวัคซีนเพิ่มเป็นประมาณ 7.5-8.4 ล้านโดสต่อเดือนซึ่งคาดว่าเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ” นพ.วิทิต กล่าว
นพ.วิทิต กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อ อภ.ผลิตวัคซีนได้จะส่งมอบให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่ในการกระจายวัคซีนให้กับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าในการปรับปรุงโรงงานผลิตวัคซีนนำร่องที่ จ.นครปฐม ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกเหลือแต่เพียงเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
