สวช.หวั่นงานศิลปะของชาติไร้ผู้สืบทอด ชง วธ.ของบ 100 ล้าน เปิดเวทีให้ศิลปินแห่งชาติแสดงฝีมือ เชื่อดึงเด็กและเยาวชนสนใจศิลปะชาติมากขึ้น ขณะที่ สภาพัฒน์ไฟเขียวงบ 2.5 พัน ล.ให้ วธ.ฟื้นลิเก ลำตัด พิพิธภัณฑ์
นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ร่วมกับ ม.ขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย จัดโครงการนิทรรศการวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ สานสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง โดยมีศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ 5 ท่าน ร่วมเป็นวิทยากร ในการถ่ายทอดองค์ความรู้งานศิลปะให้กับนักเรียนนักศึกษา เมื่อเร็วๆ นี้นั้น จากการประเมินผลการดำเนินงาน พบว่า สามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นว่าการนำศิลปะสู่เด็กและเยาวชนนั้น สามารถสร้างสมาธิ ความตั้งใจ ลดความก้าวร้าว รวมทั้งทำให้เด็กกล้าแสดงออกทางความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานด้วย
นอกจากนี้ การแลกเปลี่ยนงานศิลปะระหว่างศิลปินแห่งชาติ และกลุ่มศิลปินอนุภาคลุ่มน้ำโขง ได้แก่ ไทย ลาว เวียดนาม ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์และทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายของสังคมวัฒนธรรมในประเทศลุ่มน้ำโขงด้วย
ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2553 สวช.จะขอแปรญัตติ ของบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับเปิดเวทีสำหรับการให้ศิลปินแห่งชาติได้ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เด็กและเยาวชน ให้มากขึ้น รวมทั้งจะมีการปรับรูปแบบการดำเนินงานที่ให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปมีโอกาสเข้าร่วมในการศึกษาเรียนรู้ผลงานจากศิลปินแห่งชาติมากขึ้นด้วย
“ที่เป็นปัญหาขณะนี้ คือ ภาครัฐไม่เห็นความสำคัญของการพัฒนาองค์ความรู้งานศิลป์สู่เด็กและเยาวชน การของบประมาณสำหรับการทำกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้นอกเหนือจากในสถานศึกษาจะได้งบประมาณที่น้อยมาก รวมทั้งการให้ช่วยเหลือศิลปินแห่งชาติคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก ก็ทำได้ยาก การที่ สวช.จะของงบประมาณ 100 ล้านบาท ก็ไม่คิดว่าเป็นการเพ้อฝัน เพราะคิดว่าจะนำมาใช้ประโยชน์ช่วยศิลปินและพัฒนาเด็กและเยาวชนได้จริง” เลขาธิการ กวช.กล่าว
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า คณะอนุกรรมการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ผ่านความเห็นชอบโครงการนำร่องขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของ วธ.3 โครงการ รวมงบประมาณ 2,522.77 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ 640.57 ล้านบาท ฟื้นฟูพัฒนาพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ และสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชน 10 แห่ง
2.โครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมสร้างรายได้สู่ประชาชน 340.20 ล้านบาท ได้แก่ กิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมวรรณกรรมเยาวชน 4 ภาค จัดค่ายดนตรี ประชันกลอนสด สนับสนุนศิลปินพื้นบ้าน อาทิ ลิเก ลำตัด และนาฏศิลป์ โขนละครของชาติ 3.โครงการเทศกาลศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ จำนวน 1,542 ล้านบาท อาทิ โครงการฟื้นฟูอุทยานประวัติศาสตร์ 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร รวมงบ 65 ล้านบาท และอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับงบประมาณฟื้นฟูภูมิทัศน์โดยรอบ 256 ล้านบาท และเทศกาลมหกรรมวัฒนธรรมโลกบริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ระยะเวลา 60 วัน ระหว่างวันที่ 19 ต.ค.-20 ธ.ค.2553
นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ร่วมกับ ม.ขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย จัดโครงการนิทรรศการวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ สานสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง โดยมีศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ 5 ท่าน ร่วมเป็นวิทยากร ในการถ่ายทอดองค์ความรู้งานศิลปะให้กับนักเรียนนักศึกษา เมื่อเร็วๆ นี้นั้น จากการประเมินผลการดำเนินงาน พบว่า สามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นว่าการนำศิลปะสู่เด็กและเยาวชนนั้น สามารถสร้างสมาธิ ความตั้งใจ ลดความก้าวร้าว รวมทั้งทำให้เด็กกล้าแสดงออกทางความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานด้วย
นอกจากนี้ การแลกเปลี่ยนงานศิลปะระหว่างศิลปินแห่งชาติ และกลุ่มศิลปินอนุภาคลุ่มน้ำโขง ได้แก่ ไทย ลาว เวียดนาม ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์และทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายของสังคมวัฒนธรรมในประเทศลุ่มน้ำโขงด้วย
ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2553 สวช.จะขอแปรญัตติ ของบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับเปิดเวทีสำหรับการให้ศิลปินแห่งชาติได้ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เด็กและเยาวชน ให้มากขึ้น รวมทั้งจะมีการปรับรูปแบบการดำเนินงานที่ให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปมีโอกาสเข้าร่วมในการศึกษาเรียนรู้ผลงานจากศิลปินแห่งชาติมากขึ้นด้วย
“ที่เป็นปัญหาขณะนี้ คือ ภาครัฐไม่เห็นความสำคัญของการพัฒนาองค์ความรู้งานศิลป์สู่เด็กและเยาวชน การของบประมาณสำหรับการทำกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้นอกเหนือจากในสถานศึกษาจะได้งบประมาณที่น้อยมาก รวมทั้งการให้ช่วยเหลือศิลปินแห่งชาติคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก ก็ทำได้ยาก การที่ สวช.จะของงบประมาณ 100 ล้านบาท ก็ไม่คิดว่าเป็นการเพ้อฝัน เพราะคิดว่าจะนำมาใช้ประโยชน์ช่วยศิลปินและพัฒนาเด็กและเยาวชนได้จริง” เลขาธิการ กวช.กล่าว
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า คณะอนุกรรมการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ผ่านความเห็นชอบโครงการนำร่องขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของ วธ.3 โครงการ รวมงบประมาณ 2,522.77 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ 640.57 ล้านบาท ฟื้นฟูพัฒนาพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ และสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชน 10 แห่ง
2.โครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมสร้างรายได้สู่ประชาชน 340.20 ล้านบาท ได้แก่ กิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมวรรณกรรมเยาวชน 4 ภาค จัดค่ายดนตรี ประชันกลอนสด สนับสนุนศิลปินพื้นบ้าน อาทิ ลิเก ลำตัด และนาฏศิลป์ โขนละครของชาติ 3.โครงการเทศกาลศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ จำนวน 1,542 ล้านบาท อาทิ โครงการฟื้นฟูอุทยานประวัติศาสตร์ 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร รวมงบ 65 ล้านบาท และอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับงบประมาณฟื้นฟูภูมิทัศน์โดยรอบ 256 ล้านบาท และเทศกาลมหกรรมวัฒนธรรมโลกบริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ระยะเวลา 60 วัน ระหว่างวันที่ 19 ต.ค.-20 ธ.ค.2553