ม็อบ “หมอ-พยาบาล” เดือด ทำจดหมายร้องเรียนถึง “วิทยา” ให้สอบสวน “หมอปราชญ์” “หมอเชิดชู” สับเละบริหารราชการไม่เป็นธรรม โวยให้แพทย์ชนบทออกโรงเจรจาค่าตอบแทนแพทย์รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไปแทน ทั้งๆ ที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง พร้อมระบุนับแต่รับตำแหน่งบุคลากรสธ.ลาออกมากขึ้นทุกๆ ปี โดยไม่พยายามแก้ปัญหา ด้านโฆษกสธ.เผยเคลียร์เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายพยาบาลวิชาชีพจบแล้ว
พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา ประธานสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป เปิดเผยว่า ได้ทำจดหมายเปิดผนึก ถึงนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ร้องเรียนพฤติกรรมการบริหารราชการของนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ. เนื่องจากในวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางสมาพันธ์ฯและกลุ่มข้าราชการ ได้มาชุมนุมที่สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้จ่ายค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยง โดย รมว.สาธารณสุข ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคือนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ เป็นผู้มารับพิจารณาข้อเรียกร้อง
แต่ปรากฏว่า ปลัดสธ.มิได้มาพบกับบรรดาแพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป กลับให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวง รวมทั้งนพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ และนพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ซึ่งเป็นแพทย์โรงพยาบาลชุมชน มาเป็นตัวแทนเจรจา ทั้งๆ ที่ นพ.เกรียงศักดิ์ เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องดังกล่าวเพราะมีตำแหน่งเป็นประธานชมรมแพทย์ชนบทที่เป็นผู้เสนอประกาศกระทรวงดังกล่าว
พ.ญ.เชิดชู กล่าวต่อว่า ในการเจรจาครั้งนั้นผู้แทนทั้งหมดของปลัดกระทรวงยืนยันที่จะไม่ยอมทำตามคำขอร้องโดยสุภาพของบรรดาแพทย์รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป ซึ่งเป็นแพทย์รุ่นพี่และมีตำแหน่งทางราชการที่สูงกว่า แต่ยืนยันที่จะจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้แพทย์เพียงเดือนละ 10,000 และ 15,000 บาท และยังไม่ยอมรับการร้องขอของบุคลากรพยาบาลด้วย ในขณะเดียวกัน ผู้แทนปลัดกระทรวงที่มาเจรจาอีกคนหนึ่งคือนพ.สุพรรณ ศรีธรรมายังอ้างว่า ค่าตอบแทนที่จะให้นี้ จะให้เฉพาะโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น โรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต ต่างก็เป็นนิติบุคคล ไม่รวมอยู่กับสำนักปลัดกระทรวง ถ้าบุคลากรในกรมนี้อยากได้เงินค่าตอบแทนบ้าง ต้องไปเรียกร้องเอาเอง
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าปลัดฯ บริหารราชการโดยการฟังความแต่ผู้ใกล้ชิด ได้แก่ การฟังความแต่แพทย์โรงพยาบาลชุมชนฝ่ายเดียว และนับตั้งแต่ปลัดสธ.คนนี้มาบริหารงานในตำแหน่งปลัดกระทรวง บุคลากรทางการแพทย์ของกระทรวงลาออกมากขึ้นทุกๆ ปี แต่ปลัดกระทรวงก็ไม่พยายามแก้ปัญหา มีแต่จะเสนอให้เพิ่มค่าปรับชดใช้ทุนมากขึ้นหลายเท่าตัว”
“จากข้อมูลดังกล่าวนี้ ในนามของแพทย์รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไปจึงขอร้องเรียนต่อรมว.สธ. ให้ดำเนินการสอบสวนนพ.ปราชญ์ ฐานบริหาราชการโดยไม่เป็นธรรม มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ใต้บังคับบัญชา อย่างไม่เสมอภาค ไม่สมเหตุผล และเอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มข้าราชการที่ใกล้ชิดเท่านั้น ทั้งนี้หวังว่ารมว.สธ.จะบริหารราชการอย่างเป็นธรรมและยุติธรรมต่อบุคลากรทุกระดับไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น” พ.ญ. เชิดชูกล่าว
ด้านนพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา นายแพทย์ 10 ด้านพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข โฆษกสธ. กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้หารือกับพยาบาลวิชาชีพของโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปโดยได้ข้อสรุปร่วมกันแล้วตามข้อเสนอของ สธ.แล้ว กล่าวคือ ค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายในอัตราขั้นต่ำที่เท่ากับโรงพยาบาลชุมชน คือ กลุ่มที่ทำงาน 1-3 ปี อัตรา 1,200 บาท และกลุ่มที่ทำงาน 4 ปี ขึ้นไป อัตรา 1,800 บาท นอกจากนี้ยังให้ค่าตอบแทนตามภาระงานทั้งพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป รวมถึงโรงพยาบาลชุมชนในอัตราที่เท่ากันด้วย ซึ่งขณะนี้นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ.เห็นชอบในหลักการแล้วและคาดว่าออกเป็นประกาศได้ในสัปดาห์นี้
“ต่อไปนี้หากใครทำงานมากก็จะได้รับค่าตอบแทนมาก จึงต้องแข่งขันกันทำงาน ซึ่งจะใช้เงินบำรุงของโรงพยาบาลจ่ายไปก่อน ทำให้บุคลกรทางการแพทย์ทุกสาขาสาขาได้รับเงินทันที โดยมีผลย้อนหลังถึงวันที่ 1 ก.ค.2552 อย่างไรก็ตามการปรับบัญชีเงินเดือนของบุคลกรทางการแพทย์ให้ได้มากกว่านี้ เป็นขั้นตอนต่อไป ที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้วแต่ต้องเสนอของบประมาณจากรัฐบาล เนื่องจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมากโดยต้องนำเรื่องเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร์ต่อไป”นพ.สุพรรณกล่าว