เฮ! ประกาศห้ามขายเหล้าวันพระใหญ่ มีผลบังคับใช้ 4 ก.ค.นี้ ไม่ยกเว้นโรงแรม เอ็นจีโอเหล้าแฉ "เสธ หนั่น" เรียกประชุมด่วน แต่ไม่เป็นผลเพราะยุ นายกฯ ไม่ขึ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอกลอฮอล์ พ.ศ.2552 ที่ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้วเมื่อวันที่ 3 ก.ค.หน้าที่ 6 เล่มที่ 126 ตอนพิเศษ 95 ง โดยเป็นฉบับที่นายกรัฐมนตรีลงนามเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4ก.ค.เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการกำหนดพื้นที่ยกเว้นการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้แสดงความคิดเห็นว่า ประกาศดังกล่าวควรยกเว้นให้กับพื้นที่โรงแรมเนื่องจากเกรงว่าจะกระทบธุรกิจการท่องเที่ยว
นายคำรณ ชูเดชา เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ทำเนียบรัฐบาลหรือที่ไหนซักแห่งหนึ่ง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายฯ ด่วนเพื่อให้มีคำแนะนำยกเว้นให้กับโรงแรม เพื่อกดดันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีอีกรอบ หลังจากที่นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทักท้วงให้โรงแรมสามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในวันสำคัญทางศาสนา โดยอ้างถึงผลกระทบจากการท่องเที่ยว ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อมูลใดๆมายืนยัน
"เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิดมารยาทอยู่แล้ว ซึ่งการที่นายชุมพลจับมือกับพล.สนั่นเล่นออกโรงขวางไม่เว้นแม้กระทั่งวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาแบบนี้ เชื่อได้ว่าชาวพุทธทั่วประเทศไม่อาจทนรับพฤติกรรมดังกล่าวได้อีกต่อไปแล้ว”นายคำรณ กล่าว
นายคำรณ กล่าวต่อว่า เครือข่ายฯและภาคี 264 องค์กร มีข้อเรียกร้องดังนี้ 1 ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี แสดงความชัดเจนในนโยบายทางสังคม และมีภาวะความเป็นผู้นำที่เด็ดขาด ไม่กลับไปกลับมา ด้วยการเดินหน้า มาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันสำคัญทางศาสนา โดยไม่มีข้อยกเว้น
“คำถามที่พล.ต.สนั่น และ นายชุมพล ต้องตอบกับสังคมคือ หากมีมาตรการดังกล่าวแล้วนักท่องเที่ยวจะไม่มาเมืองไทยจริงหรือไม่ แล้วต่อไปหากมีมาตรการห้ามขายเหล้าปั่น ห้ามขายเหล้าในพื้นที่รอบสถานศึกษา เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะมาอ้างผลกระทบนักท่องเที่ยวอีกหรือไม่ และหากมีการประชุมคณะกรรมนโยบายฯ จริงในวันที่ 4 ก.ค. หวังว่าบรรดากรรมการซึ่งเป็นรัฐมนตรีจากหลายกระทรวง จะมีจุดยืนที่เห็นแก่พระพุทธศาสนาบ้าง”นายคำรณ กล่าว
นอกจากนี้ขอประณามบุคคลและขบวนที่ขัดขวาง มาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และขอเรียกร้องให้พุทธศาสนิกชน จดจำชื่อบุคคลและพรรคการเมืองนี้ไว้เพื่อประชาชนจะร่วมกันให้บทเรียนครั้งสำคัญกับนักการเมือง ที่นอกจากจะไม่ทำนุบำรุงพุทธศาสนาแล้วยังขัดขวางทางเจริญ ทางที่ดีงามซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นแก่ชาวพุทธอีกด้วย
นายคำรณ กล่าวด้วยว่า การเปิดช่องว่างให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ในโรงแรมโดยอ้างนักท่องเที่ยวนั้น ด้านหนึ่งคือการผลักให้บรรดานักดื่มทั้งหลาย กระโจนเข้าไปเป็นลูกค้ากับโรงแรมต่างๆในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นการกีดกันผู้ค้ารายหนึ่งแต่ไปสร้างประโยชน์ให้ผู้ค้าอีกรายหนึ่ง และเป็นคำสั่งทางปกครองที่มีปัญหาเลือกปฏิบัติ เข้าข่ายการกีดกันทางการค้าที่ศาลปกครองอาจต้องพิจารณาการฟ้องร้อง จากบรรดาผู้ประกอบการที่เสียประโยชน์จากมาตรการที่ไม่เป็นธรรมนี้ และต่อไปบรรดาโรงแรมจิ้งหรีด ม่านรูดทั้งหลายคงมีพัฒนาการกลายเป็นร้านเหล้ากันเต็มบ้านเต็มเมือง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาก็จะมีคนจำนวนไม่น้อยที่หลบกระแสธรรมเข้าไป เมากันในโรงแรม
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอกลอฮอล์ พ.ศ.2552 ที่ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้วเมื่อวันที่ 3 ก.ค.หน้าที่ 6 เล่มที่ 126 ตอนพิเศษ 95 ง โดยเป็นฉบับที่นายกรัฐมนตรีลงนามเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4ก.ค.เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการกำหนดพื้นที่ยกเว้นการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้แสดงความคิดเห็นว่า ประกาศดังกล่าวควรยกเว้นให้กับพื้นที่โรงแรมเนื่องจากเกรงว่าจะกระทบธุรกิจการท่องเที่ยว
นายคำรณ ชูเดชา เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ทำเนียบรัฐบาลหรือที่ไหนซักแห่งหนึ่ง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายฯ ด่วนเพื่อให้มีคำแนะนำยกเว้นให้กับโรงแรม เพื่อกดดันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีอีกรอบ หลังจากที่นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทักท้วงให้โรงแรมสามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในวันสำคัญทางศาสนา โดยอ้างถึงผลกระทบจากการท่องเที่ยว ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อมูลใดๆมายืนยัน
"เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิดมารยาทอยู่แล้ว ซึ่งการที่นายชุมพลจับมือกับพล.สนั่นเล่นออกโรงขวางไม่เว้นแม้กระทั่งวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาแบบนี้ เชื่อได้ว่าชาวพุทธทั่วประเทศไม่อาจทนรับพฤติกรรมดังกล่าวได้อีกต่อไปแล้ว”นายคำรณ กล่าว
นายคำรณ กล่าวต่อว่า เครือข่ายฯและภาคี 264 องค์กร มีข้อเรียกร้องดังนี้ 1 ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี แสดงความชัดเจนในนโยบายทางสังคม และมีภาวะความเป็นผู้นำที่เด็ดขาด ไม่กลับไปกลับมา ด้วยการเดินหน้า มาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันสำคัญทางศาสนา โดยไม่มีข้อยกเว้น
“คำถามที่พล.ต.สนั่น และ นายชุมพล ต้องตอบกับสังคมคือ หากมีมาตรการดังกล่าวแล้วนักท่องเที่ยวจะไม่มาเมืองไทยจริงหรือไม่ แล้วต่อไปหากมีมาตรการห้ามขายเหล้าปั่น ห้ามขายเหล้าในพื้นที่รอบสถานศึกษา เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะมาอ้างผลกระทบนักท่องเที่ยวอีกหรือไม่ และหากมีการประชุมคณะกรรมนโยบายฯ จริงในวันที่ 4 ก.ค. หวังว่าบรรดากรรมการซึ่งเป็นรัฐมนตรีจากหลายกระทรวง จะมีจุดยืนที่เห็นแก่พระพุทธศาสนาบ้าง”นายคำรณ กล่าว
นอกจากนี้ขอประณามบุคคลและขบวนที่ขัดขวาง มาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และขอเรียกร้องให้พุทธศาสนิกชน จดจำชื่อบุคคลและพรรคการเมืองนี้ไว้เพื่อประชาชนจะร่วมกันให้บทเรียนครั้งสำคัญกับนักการเมือง ที่นอกจากจะไม่ทำนุบำรุงพุทธศาสนาแล้วยังขัดขวางทางเจริญ ทางที่ดีงามซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นแก่ชาวพุทธอีกด้วย
นายคำรณ กล่าวด้วยว่า การเปิดช่องว่างให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ในโรงแรมโดยอ้างนักท่องเที่ยวนั้น ด้านหนึ่งคือการผลักให้บรรดานักดื่มทั้งหลาย กระโจนเข้าไปเป็นลูกค้ากับโรงแรมต่างๆในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นการกีดกันผู้ค้ารายหนึ่งแต่ไปสร้างประโยชน์ให้ผู้ค้าอีกรายหนึ่ง และเป็นคำสั่งทางปกครองที่มีปัญหาเลือกปฏิบัติ เข้าข่ายการกีดกันทางการค้าที่ศาลปกครองอาจต้องพิจารณาการฟ้องร้อง จากบรรดาผู้ประกอบการที่เสียประโยชน์จากมาตรการที่ไม่เป็นธรรมนี้ และต่อไปบรรดาโรงแรมจิ้งหรีด ม่านรูดทั้งหลายคงมีพัฒนาการกลายเป็นร้านเหล้ากันเต็มบ้านเต็มเมือง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาก็จะมีคนจำนวนไม่น้อยที่หลบกระแสธรรมเข้าไป เมากันในโรงแรม