xs
xsm
sm
md
lg

จัดโซนนิ่งร้านเหล้ารอบสถานศึกษา พิลึก! ห้ามขายรัศมีทางเข้า-ออก ปล่อยผีริมรั้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“มานิต” เตรียมจัดโซนนิ่งร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ห้ามขายในรัศมีวัดจากหน้าประตูเข้า-ออก แต่ไม่ห้ามริมรั้ว เตรียมเรียกร้านยาดองถกตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ แล้วจัดแยกเป็นประเภท ขณะที่กฤษฎีกาเห็นชอบร่างกฎกระทรวงควบคุมโฆษณาเหล้าแล้ว แต่บริษัทน้ำเมายื่นคัดค้านขอกฤษฎีกาพิจารณาใหม่ ห่วงปลุก องค์กรภาคประชาชนต้าน เผยเตรียมออกฎหมายคุมเหล้าอีก 11 ฉบับ คาดมีผลใช้ทันภายในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 4 ฉบับ

วันนี้ (30 มิ.ย.) นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้แทนจากกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกันแถลงข่าว “การจัดงานรณรงค์วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ปี 2552” ซึ่งตรงกับวันเข้าพรรษา 8 ก.ค.นี้

นายมานิต กล่าวว่า ขณะนี้ได้ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยสถานที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะบริเวณรอบสถานศึกษา เบื้องต้นได้หารือเรื่องการกำหนดระยะห่างระหว่างสถานศึกษากับร้านค้าและร้านรถเข็นทุกประเภทที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มีความเหมาะสม โดยจะวัดจากปากประตูทางเข้า-ออกสถานศึกษา ขณะที่บริเวณรอบรั้วสถานศึกษาอาจจะไม่มีความจำเป็นต้องห้าม เนื่องจากคงไม่มีนักเรียน นักศึกษาปีนข้ามรั้วไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้

นายมานิตกล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้สถานศึกษาเชิญผู้ประกอบการร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อยู่ในพื้นที่มาหารืออย่างรอบคอบว่าสมควรที่จะกำหนดระยะห่างกี่เมตร เพื่อไม่ให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย ขณะเดียวกันไม่ให้กระทบต่อผู้ค้า ในส่วนของร้านยาดองกำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในยาดองแล้วจัดแยกเป็นประเภท เพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯหรือไม่

“ผมได้รับการร้องเรียนจากมหาวิทยาลัยเกือบทุกแห่งว่าตรวจพบร้านค้าแอบลักลอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ทั้งที่กฎหมายห้าม ซึ่งผมได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีการกวดขันในเรื่องนี้อย่างแข็งขันแล้ว”นายมานิตกล่าว

นายมานิตกล่าวต่อว่า การป้องกันและควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะต้องดำเนินการหลายมาตรการควบคู่กัน ทั้งทางกฎหมาย การขึ้นภาษี การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ การศึกษา มาตรการทางสังคม ในช่วงปี 2551 กระทรวงสาธารณสุขผลักดันกฎหมายสำเร็จแล้ว 11 ฉบับ ที่สำคัญคือ กฎหมายควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา ที่เหลือเป็นกฎหมายลูกที่ลงนามโดยนายกรัฐมนตรี 6 ฉบับ และลงนามโดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข 4 ฉบับ ในปี 2552 อยู่ระหว่างจัดทำอีก 11 ฉบับ อาทิ กฎหมายห้ามโฆษณา ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว กฎหมายกำหนดสถานที่ห้ามดื่มสุรา สถานที่ห้ามขาย กฎหมายกำหนดวันหรือเวลาห้ามขาย กฎหมายควบคุมเหล้าปั่น ซึ่งเป็นการขายแอบแฝงที่เป็นที่นิยมของเยาวชน การให้สินบนรางวัลนำจับ การพิมพ์ฉลากคำเตือนข้างขวด คาดว่าจะทันใช้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 4 ฉบับ

ด้าน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ในส่วนของร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ...... ที่ผ่านการพิจารณาเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และส่งเข้าสู่การพิจาณาของคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นชอบแล้ว โดยธรรมเนียมของการออกกฎกระทรวง เมื่อผ่านความเห็นชอบของครม.และคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วไม่จำเป็นต้องนำกลับเข้าสู่การพิจารณาของครม.อีกครั้ง สามารถเสนอให้นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามและมีผลบังคับใช้ได้ทันที

“ขณะนี้ถือว่ากระบวนการพิจารณาของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้จบแล้ว แต่มีความกังวลมาก เนื่องจากมีบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 บริษัททำหนังสือถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้จัดประชุมพิจารณาร่างกฎกระทรวงนี้ใหม่ ซึ่งหากคณะกรรมการกฤษฎีการับลูก เกรงว่าองค์กรภาคประชาชนที่เห็นด้วยกับร่างกฎกระทรวงนี้ราว 200-300 องค์กรจะออกมาคัดค้าน จะทำให้คณะกรรมกฤษฎีกาลำบากเพราะคงต้องจัดประชุมพิจารณาไม่รู้จบ ในเมื่อคณะกรรมกฤษฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่าถ้อยคำร่างกฎกระทรวงนี้มีความเหมาะสมและครม.ก็เห็นชอบแล้วก็ไม่น่าจะต้องจัดประชุมใหม่”นพ.สมานกล่าว

นพ.สมาน กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างประกาศกระทรวงฯ เรื่องการโฆษณา กำหนดดังนี้ 1.การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะต้องแยกให้ชัดเจนระหว่างตราสัญลักษณ์ (โลโก้) ของเครื่องดื่มและโลโก้ของบริษัท เพราะการใช้รูปเดียวกันแต่คนละสี กลุ่มเด็กและเยาวชนก็เข้าใจว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ 2.สื่อทางสถานีโทรทัศน์ การฉายภาพ ภาพยนตร์ วีดิทัศน์ การแสดงภาพโลโก้โดยผ่านเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ ต้องมีขนาดไม่เกินกว่า ร้อยละ 5 ของพื้นที่โฆษณาทั้งหมด และไม่เกินกว่า ร้อยละ 5 ของเวลาโฆษณาทั้งหมด แต่ต้องไม่เกินกว่า 2 วินาที โดยให้แสดงได้ตั้งแต่เวลา 22.00-05.00 น. และให้แสดงภาพสัญลักษณ์คำกล่าวตอนท้าย ของการโฆษณาเท่านั้น 2.สื่อสิ่งพิมพ์ต้องแสดงภาพโลโก้มีขนาดไม่เกินกว่า ร้อยละ 5 ของพื้นที่โฆษณาทั้งหมด โดยห้ามแสดงที่ปกหน้า ปกหลัง คู่หน้ากลาง หรือที่สิ่งห่อหุ้มสื่อสิ่งพิมพ์ดังกล่าว

นพ.สมาน กล่าวว่า และ 3.สื่ออื่นๆ ต้องมีขนาดไม่เกินกว่าร้อยละ 3 ของพื้นที่โฆษณาในสื่อนั้นๆ ทั้งนี้ ภาพสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องไม่มีลักษณะเป็นภาพของสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือมีข้อความอันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ คุณประโยชน์ คุณภาพของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือชักจูงใจให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าโดยตรงหรือทางอ้อม

นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการสำรวจการบริโภคเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ในปี 2550 พบว่า ประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งมี 51.2 ล้านคน เป็นผู้ที่ดื่มสุราถึง 14.9 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 29.3 โดยผู้ชายดื่มมากกว่าผู้หญิง 6 เท่า กลุ่มวัยทำงานมีการดื่มมากที่สุด ร้อยละ 34.4 รองลงมาร้อยละ 21.9 เป็นกลุ่มเยาวชนอายุ 15-24 ปี ซึ่งเป็นวัยที่อยู่ในช่วงศึกษาเล่าเรียนเพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต ส่วนปริมาณการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท พบว่าปี 2550 มียอดขาย 2,300 ล้านลิตร และลดลงเหลือ 2,000 ล้านลิตร ในปี 2551 ส่วนในรอบ 5 เดือนแรกปีนี้ ตั้งแต่มกราคม-พฤษภาคม มียอดขาย 1,200 ล้านลิตร สูงกว่าช่วงเดียวกันในปี 2551 ร้อยละ 33

นพ.ประพนธ์ กล่าวอีกว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดศูนย์รับแจ้งเรื่องร้องเรียนผู้กระทำผิดกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 13 แห่งทั่วประเทศ ทางหมายเลข 0-2590-3342 เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบังคับใช้กฎหมาย ในปีนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมาย 490 เรื่อง อันดับ 1 ได้แก่ การโฆษณาผิดกฎหมาย รองลงมาคือ การจำหน่ายในเวลาและสถานที่ห้ามจำหน่ายทุกเรื่องได้ถูกดำเนินการทั้งหมด และมีการดำเนินคดีแล้ว 34 คดี

ทั้งนี้ ในวันเสาร์ที่ 4 ก.ค.นี้ ที่ลานโปรโมชัน ชั้นเอฟ ศูนย์การค้าเจเจ มอลล์ พลาซ่า สวนจตุจักร สธ.จะจัดกิจกรรมณรงค์วันงดดื่มสุราแห่งชาติ โดยปีนี้ใช้คำขวัญว่า “งดดื่ม งดเมา งดเหล้าเข้าพรรษา”
กำลังโหลดความคิดเห็น