อภ.เผยวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ราคาเพียงโดสละ 200 บาท ขณะที่ “พรีม่า” เผยบริษัทยาต่างประเทศเจ๋งผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 เสร็จ ก.ย.นี้ พร้อมใจป้ำร่วมบริจาคให้ฮูแจกจ่ายให้ประเทศต่างๆ 150 ล้านโดส
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ในวันที่ 11 กรกฎาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมห้องปฏิบัติการอาคารปฏิบัติการควบคุมและประเมินคุณภาพทางเภสัชศาสตร์และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร จ.นครปฐม ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบนำร่องที่มีการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ครบวงจร เพื่อสร้างความมั่นใจในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งคาดว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) จะตรวจให้การรับรองมาตรการผลิตที่ดี (GMP WHO) ให้กับองค์การเภสัชกรรมเป็นแห่งแรกของประเทศ ทั้งนี้ ในการตกลงความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกทำให้อภ.สามารถผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009 แบบฉีดพ่นทางจมูก ในราคา 200 บาทต่อโดส โดยเชื้อเป็นที่จะนำมาผลิตจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ และสามารถผลิตได้สำเร็จในเดือน ต.ค.และนำมาใช้ได้ในเดือน มี.ค.นี้
“ขณะนี้มีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งติดต่อขอซื้อวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลกับ อภ. เนื่องจากขณะนี้มีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้ประชาชนตื่นตัวในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ แม้วัคซีนดังกล่าวจะไม่สามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ข้ามสายพันธุ์ได้ก็ตาม ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวจะต้องมีการสั่งจองล่วงหน้า ซึ่ง อภ.ได้ส่งมอบวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่กรมควบคุมโรคสั่งจองกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในสังกัดหมดแล้ว จึงไม่เหลือวัคซีนอยู่ในสต๊อก แต่หากประชาชนมีความนิยมในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น ในปีหน้าอาจจะมีการสั่งจองวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเพิ่มอีก 5,000-10,000 โดส”นพ.วิทิตกล่าว
ด้าน พญ.กิติมา ยุทธวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ (พรีม่า) เปิดเผยว่า ทราบข่าวจากบริษัทยาต่างประเทศที่เป็นสมาชิกของพรีม่าว่า ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จะผลิตเสร็จ โดยมีบริษัทที่วิจัยสำเร็จและผลิตได้ประมาณ 4-5 แห่ง
“โดยปกติหากมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ๆ กว่าที่บริษัทยาจะสามารถผลิตวัคซีนได้ก็จะประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งใน ก.ย.นี้บริษัทยาจะสามารถผลิตได้ ทั้งนี้ทราบมาว่าทางบริษัทยาทั้งหมดจะร่วมบริจาควัคซีนดังกล่าวให้กับองค์การอนามัยโลกนำไปให้ประชากรในประเทศต่างๆ จำนวน 150 ล้านโดส ส่วนเรื่องราคานั้นไม่ทราบว่าจะมีราคาเท่าใด แต่คิดว่าหากบริษัทจะคิดเรื่องราคา คงจะคิดเรื่องการผลิตอย่างไรให้ผลิตได้จำนวนมากๆ แทน”พญ.กิติมา กล่าว