กรมสุขภาพจิต ร่วมกับสมาคมสายใยครอบครัว เปิดบ้านศรีธัญญา ชวนเยาวชนไทยเข้าร่วมโครงการ เปิดบ้านตามหา “น” ปัจจัยสำคัญเติมเต็มคำว่า “บ้า(น)” ให้สมบูรณ์เพื่อความสุขของครอบครัวไทย
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า โครงการ เปิดบ้านตามหา “น” เกิดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ สะท้อนความรู้สึกนึกคิดที่ต้องประสบกับปัญหาอุปสรรค หรือความไม่เข้าใจ จากสังคมรอบข้าง ที่หลายครอบครัวอาจมีแรงอึด ฮึด สู้ สามารถปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นครอบครัวที่เข้มแข็ง ขึ้นมาได้ แต่บางครอบครัวก็อาจยังรับมือไม่ไหวต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในสังคม ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ประมาณ 1.4 ล้านราย ซึ่งหมายถึงยังมีอีกหลายครอบครัวที่ต้องปรับตัวรับมือกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“จากการทำงานร่วมกับเด็กและเยาวชน โดยสมาคมสายใยครอบครัว โรงพยาบาลศรีธัญญา พบว่า เยาวชนไทยมีความเสี่ยงต่อการมีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งการร่วมโครงการในรูปแบบของศิลปะที่สร้างสรรค์ อาทิ บทความ ภาพเขียน และละครเวที ทำให้เห็นว่า เยาวชนไทยมีศักยภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ นอกจากทำให้ผู้มีปัญหาสุขภาพจิตและครอบครัวได้ถ่ายทอดประสบการณ์ เกิดความรู้สึกภูมิใจว่ายังมีคนเห็นคุณค่าของพวกเขาแล้ว ยังเป็นการให้ความรู้ ความเข้าใจโรคทางจิตเวชให้กับเด็กและเยาวชนที่ร่วมโครงการได้เป็นอย่างดี เนื่องจากพวกเขาจะได้สัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวผู้มีปัญหาสุขภาพจิตโดยตรง” นพ.วชิระ กล่าว
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า โครงการนี้จะเริ่มจากการคัดเลือกเด็กและเยาวชน อายุ 14-18 ปี จำนวน 60 ทีมๆ ละ3 คน เข้าอบรมหลักสูตรสายใยครอบครัวที่ให้ความรู้ ความเข้าใจโรคทางจิตเวช และเรียนรู้การทำวิจัยเบื้องต้น เพื่อลงเยี่ยมบ้านผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ทีมละ 3 ครอบครัว รวม 180 ครอบครัว ซึ่งเป็นครอบครัวที่มาจากสมาคมสายใยครอบครัว สมาคมผู้บกพร่องทางจิตและจากชุมชนที่เด็กและเยาวชนอาศัยอยู่ ทั้งนี้ เพื่อร่วมพูดคุย ค้นหา “น” ในครอบครัวเหล่านั้น
นพ.วชิระ กล่าวด้วยว่า เชื่อว่าครอบครัวหรือบ้านจะมีความสุขและยืนหยัดอยู่ได้อย่างเข้มแข็งต้องมีตัว “น” ไม่เช่นนั้นคำว่า บ้า(น) จะไม่สมบูรณ์ ซึ่ง “น” ที่ว่านี้ อาทิ น น่ารัก... รักนะ แต่ ไม่กล้าบอก น น่าอยู่...ไม่หดหู่อย่างที่คิด ครอบครัวมีความเข้าใจกัน น หนักแน่น...ปัญหาถาโถมก็ยังอยู่ได้ ครอบครัว มีความเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน น นอบน้อม...มิตรจิตมิตรใจไหลมาเทมา ครอบครัวมีความมุ่งมั่นร่วมแรงร่วมใจช่วยกันแก้ปัญหา น แน่วแน่...ไม่แช่ปัญหาไว้ ครอบครัวมีความไว้ใจ ใส่ใจซึ่งกันและกัน น นุ่มนวล...สยบความก้าวร้าว ใช้วาจานุ่มนวลพูดคุย ปรับความเข้าใจ ฯลฯ หลังจากนั้น เด็กและเยาวชนเหล่านี้จะได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ที่เขาได้รับและสัมผัสจากครอบครัวผู้มีปัญหาสุขภาพจิตโดยตรงในรูปของศิลปะที่สร้างสรรค์
สำหรับโครงการเปิดบ้านตามหา “น” เปิดรับสมัครนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า อายุ 14-18 ปี เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ งานเขียน ภาพเขียน ละครเวทีและโครงงานสร้างสรรค์ต่างๆ ที่ถ่ายทอดจากเด็กและเยาวชนที่ร่วมโครงการจะได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชนในวันเปิดบ้านตามหา “น” ช่วงเดือนธันวาคมนี้ ณ หอศิลป์ กรุงเทพมหานคร หากสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สมาคมสายใยครอบครัว โรงพยาบาลศรีธัญญา หมายเลขโทรศัพท์ 0-2525-2333-5 ต่อ 2146, 0-2968-9659 และ 08-9117-5283
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า โครงการ เปิดบ้านตามหา “น” เกิดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ สะท้อนความรู้สึกนึกคิดที่ต้องประสบกับปัญหาอุปสรรค หรือความไม่เข้าใจ จากสังคมรอบข้าง ที่หลายครอบครัวอาจมีแรงอึด ฮึด สู้ สามารถปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นครอบครัวที่เข้มแข็ง ขึ้นมาได้ แต่บางครอบครัวก็อาจยังรับมือไม่ไหวต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในสังคม ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ประมาณ 1.4 ล้านราย ซึ่งหมายถึงยังมีอีกหลายครอบครัวที่ต้องปรับตัวรับมือกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“จากการทำงานร่วมกับเด็กและเยาวชน โดยสมาคมสายใยครอบครัว โรงพยาบาลศรีธัญญา พบว่า เยาวชนไทยมีความเสี่ยงต่อการมีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งการร่วมโครงการในรูปแบบของศิลปะที่สร้างสรรค์ อาทิ บทความ ภาพเขียน และละครเวที ทำให้เห็นว่า เยาวชนไทยมีศักยภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ นอกจากทำให้ผู้มีปัญหาสุขภาพจิตและครอบครัวได้ถ่ายทอดประสบการณ์ เกิดความรู้สึกภูมิใจว่ายังมีคนเห็นคุณค่าของพวกเขาแล้ว ยังเป็นการให้ความรู้ ความเข้าใจโรคทางจิตเวชให้กับเด็กและเยาวชนที่ร่วมโครงการได้เป็นอย่างดี เนื่องจากพวกเขาจะได้สัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวผู้มีปัญหาสุขภาพจิตโดยตรง” นพ.วชิระ กล่าว
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า โครงการนี้จะเริ่มจากการคัดเลือกเด็กและเยาวชน อายุ 14-18 ปี จำนวน 60 ทีมๆ ละ3 คน เข้าอบรมหลักสูตรสายใยครอบครัวที่ให้ความรู้ ความเข้าใจโรคทางจิตเวช และเรียนรู้การทำวิจัยเบื้องต้น เพื่อลงเยี่ยมบ้านผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ทีมละ 3 ครอบครัว รวม 180 ครอบครัว ซึ่งเป็นครอบครัวที่มาจากสมาคมสายใยครอบครัว สมาคมผู้บกพร่องทางจิตและจากชุมชนที่เด็กและเยาวชนอาศัยอยู่ ทั้งนี้ เพื่อร่วมพูดคุย ค้นหา “น” ในครอบครัวเหล่านั้น
นพ.วชิระ กล่าวด้วยว่า เชื่อว่าครอบครัวหรือบ้านจะมีความสุขและยืนหยัดอยู่ได้อย่างเข้มแข็งต้องมีตัว “น” ไม่เช่นนั้นคำว่า บ้า(น) จะไม่สมบูรณ์ ซึ่ง “น” ที่ว่านี้ อาทิ น น่ารัก... รักนะ แต่ ไม่กล้าบอก น น่าอยู่...ไม่หดหู่อย่างที่คิด ครอบครัวมีความเข้าใจกัน น หนักแน่น...ปัญหาถาโถมก็ยังอยู่ได้ ครอบครัว มีความเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน น นอบน้อม...มิตรจิตมิตรใจไหลมาเทมา ครอบครัวมีความมุ่งมั่นร่วมแรงร่วมใจช่วยกันแก้ปัญหา น แน่วแน่...ไม่แช่ปัญหาไว้ ครอบครัวมีความไว้ใจ ใส่ใจซึ่งกันและกัน น นุ่มนวล...สยบความก้าวร้าว ใช้วาจานุ่มนวลพูดคุย ปรับความเข้าใจ ฯลฯ หลังจากนั้น เด็กและเยาวชนเหล่านี้จะได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ที่เขาได้รับและสัมผัสจากครอบครัวผู้มีปัญหาสุขภาพจิตโดยตรงในรูปของศิลปะที่สร้างสรรค์
สำหรับโครงการเปิดบ้านตามหา “น” เปิดรับสมัครนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า อายุ 14-18 ปี เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ งานเขียน ภาพเขียน ละครเวทีและโครงงานสร้างสรรค์ต่างๆ ที่ถ่ายทอดจากเด็กและเยาวชนที่ร่วมโครงการจะได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชนในวันเปิดบ้านตามหา “น” ช่วงเดือนธันวาคมนี้ ณ หอศิลป์ กรุงเทพมหานคร หากสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สมาคมสายใยครอบครัว โรงพยาบาลศรีธัญญา หมายเลขโทรศัพท์ 0-2525-2333-5 ต่อ 2146, 0-2968-9659 และ 08-9117-5283
