สศร.อ้อนของบสร้างศาลาไทยประชันศิลป์ไทยในเวนิส เผยการเยือนอิตาลี ทำให้ศิลปินไทยมีช่องทางโกอินเตอร์ ชี้ ปีต่อไปถ้าไม่ให้งบเพิ่มขอแค่ไม่ตัดงบก็พอใจแล้ว
นายอารักษ์ สังหิตกุล ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) เปิดเผยในการประชุมทางวิชาการ “ย้อนรอย 7 ภัณฑารักษ์ ศาลาไทยเวนิสเบียนนาเล่” ว่า ประเทศไทยได้เข้าร่วมมหกรรมศิลปะนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล่ ครั้งที่ 53 ซึ่งมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งประเทศไทยได้นำศาลาไทยไปออกแสดง และได้รับการตอบรับที่ดีจากนานาชาติ แม้ว่าจะประสบปัญหาด้านงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐเพียง 5 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมมหกรรมทำให้ไทยไม่สามารถจัดนิทรรศการอาคารถาวรได้
“เราไม่สามารถมีอาคารถาวรที่นั่นได้ เพราะเราเป็นประเทศที่เพิ่งเข้าร่วมมหกรรมไม่นานโดยปีนี้นับเป็นปีที่ 4 ของการเข้าร่วมจัดนิทรรศการเวนิส เบียนนาเล่ ครั้งต่อไปหวังว่าจะได้รับงบประมาณอย่างเพียงพอ เนื่องจากการเข้าร่วมงานดังกล่าวนับเป็นการแข่งขันระหว่างประเทศในด้านการแสดงออกถึงวัฒนธรรม ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อการได้รับเกียรติจากต่างชาติในด้านต่างๆ อาทิ สังคม เศรษฐกิจ และการทูต” นายอารักษ์ กล่าว
ด้าน ดร. วิมลลักษณ์ ชูชาติ ผู้อำนวยการศูนย์หอศิลป์ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กล่าวว่า งานแสดงนิทรรศการศาลาไทยในเวนิส เบียนนาเล่ ครั้งนี้เป็นการเข้าร่วมในลักษณะการได้รับเชิญให้เข้าร่วม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสถานภาพจากความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างศิลปินต่อการจัดงานกลายเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นในโอกาสต่อไปโครงการนี้คงไม่หายจากแผนดำเนินงานของ สศร.
“เรามีการสร้างฐานความสัมพันธ์ระดับนโยบายสูงของอิตาลีไว้แล้ว และได้ความร่วมมือจากสถานทูตมากขึ้น ดังนั้นจากการประมวลผลลัพธ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น งานนี้น่าจะต้องคงอยู่และกลายเป็นงานประจำของสำนักงานไทย สำหรับการเปิดโอกาสให้ศิลปินไปสู่นานาชาติ แม้จะไม่ได้งบประมาณเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มีการตัดงบถือเป็นเรื่องดี แนวโน้ม เรื่องโครงการต่างๆ ก็น่าจะไปได้ดีขึ้น” ดร.วิมลลักษณ์ กล่าว
นายอารักษ์ สังหิตกุล ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) เปิดเผยในการประชุมทางวิชาการ “ย้อนรอย 7 ภัณฑารักษ์ ศาลาไทยเวนิสเบียนนาเล่” ว่า ประเทศไทยได้เข้าร่วมมหกรรมศิลปะนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล่ ครั้งที่ 53 ซึ่งมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งประเทศไทยได้นำศาลาไทยไปออกแสดง และได้รับการตอบรับที่ดีจากนานาชาติ แม้ว่าจะประสบปัญหาด้านงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐเพียง 5 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมมหกรรมทำให้ไทยไม่สามารถจัดนิทรรศการอาคารถาวรได้
“เราไม่สามารถมีอาคารถาวรที่นั่นได้ เพราะเราเป็นประเทศที่เพิ่งเข้าร่วมมหกรรมไม่นานโดยปีนี้นับเป็นปีที่ 4 ของการเข้าร่วมจัดนิทรรศการเวนิส เบียนนาเล่ ครั้งต่อไปหวังว่าจะได้รับงบประมาณอย่างเพียงพอ เนื่องจากการเข้าร่วมงานดังกล่าวนับเป็นการแข่งขันระหว่างประเทศในด้านการแสดงออกถึงวัฒนธรรม ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อการได้รับเกียรติจากต่างชาติในด้านต่างๆ อาทิ สังคม เศรษฐกิจ และการทูต” นายอารักษ์ กล่าว
ด้าน ดร. วิมลลักษณ์ ชูชาติ ผู้อำนวยการศูนย์หอศิลป์ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กล่าวว่า งานแสดงนิทรรศการศาลาไทยในเวนิส เบียนนาเล่ ครั้งนี้เป็นการเข้าร่วมในลักษณะการได้รับเชิญให้เข้าร่วม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสถานภาพจากความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างศิลปินต่อการจัดงานกลายเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นในโอกาสต่อไปโครงการนี้คงไม่หายจากแผนดำเนินงานของ สศร.
“เรามีการสร้างฐานความสัมพันธ์ระดับนโยบายสูงของอิตาลีไว้แล้ว และได้ความร่วมมือจากสถานทูตมากขึ้น ดังนั้นจากการประมวลผลลัพธ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น งานนี้น่าจะต้องคงอยู่และกลายเป็นงานประจำของสำนักงานไทย สำหรับการเปิดโอกาสให้ศิลปินไปสู่นานาชาติ แม้จะไม่ได้งบประมาณเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มีการตัดงบถือเป็นเรื่องดี แนวโน้ม เรื่องโครงการต่างๆ ก็น่าจะไปได้ดีขึ้น” ดร.วิมลลักษณ์ กล่าว