“ธีระชน” เผยเงินรางวัลสลากการกุศล กทม.เทียบเท่าหวยรัฐบาล แย้มปลายปีได้แทงเพื่อการกุศลแน่นอน ขณะที่พันธบัตรระบุดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากชัวร์
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการดำเนินการออกพันธบัตร สลากการกุศล และการกู้เงินของกรุงเทพมหานคร และผู้แทนจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ว่าเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า
การออกสลากการกุศลของ กทม.ในวาระแรกจะออกเพื่อหาเงินทุนก่อสร้างโรงพยาบาลบางขุนเทียนเพียงโครงการเดียว ภายใต้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้ กทม.มีแนวคิดที่จะดำเนินการก่อสร้างศูนย์พักพิงผู้สูงอายุและคนเร่ร่อนด้วย แต่เพื่อป้องกันความสับสนจึงชะลอโครงการก่อสร้างทั้ง 2 ศูนย์เอาไว้ก่อน และจะเร่งสรุปข้อมูลทั้งหมดนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถออกสลากการกุศลได้ทันปลายปีนี้
นายธีระชนกล่าวอีกว่า ส่วนการออกพันธบัตรนั้นพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันพบว่า หาก กทม.ดำเนินการออกพันธบัตรจะมีประโยชน์มากกว่า เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคารค่อนข้างต่ำมาก ซึ่งการซื้อพันธบัตรเพื่อการออมเงินถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ประชาชนจะต้องให้ความสนใจเพราะได้ดอกเบี้ยมากกว่า อีกทั้งยังได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเมืองด้วย ซึ่ง กทม.มีโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้า สาธารณูปโภคเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าจำหน่ายพันธบัตรไว้ที่ 20,000 ล้านบาท
“ในส่วนของการออกสลากการกุศลขณะนี้ค่อนข้างพร้อมพอสมควรแล้ว ขณะนี้รอเพียงแบบของโรงพยาบาลเสร็จสมบูรณ์ ก่อนจะส่งให้ ครม.อนุมัติให้กองสลากฯ รับไปดำเนินการ ซึ่งก็คาดว่าน่าจะออกได้ภายในปลายปีนี้ จากนั้นก็จะจำหน่ายประมาณ 1 ปี น่าจะได้เงินครบตามเป้าที่ตั้งไว้ ส่วนเงินรางวัลก็จะเท่าๆ กับลอตเตอรี่ไม่ต่ำหรือสูงไปกว่านั้น ขณะที่พันธบัตรน่าจะได้ออกในปีหน้า ซึ่งจะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคาร 4-5%” นายธีระชน กล่าว
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการดำเนินการออกพันธบัตร สลากการกุศล และการกู้เงินของกรุงเทพมหานคร และผู้แทนจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ว่าเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า
การออกสลากการกุศลของ กทม.ในวาระแรกจะออกเพื่อหาเงินทุนก่อสร้างโรงพยาบาลบางขุนเทียนเพียงโครงการเดียว ภายใต้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้ กทม.มีแนวคิดที่จะดำเนินการก่อสร้างศูนย์พักพิงผู้สูงอายุและคนเร่ร่อนด้วย แต่เพื่อป้องกันความสับสนจึงชะลอโครงการก่อสร้างทั้ง 2 ศูนย์เอาไว้ก่อน และจะเร่งสรุปข้อมูลทั้งหมดนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถออกสลากการกุศลได้ทันปลายปีนี้
นายธีระชนกล่าวอีกว่า ส่วนการออกพันธบัตรนั้นพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันพบว่า หาก กทม.ดำเนินการออกพันธบัตรจะมีประโยชน์มากกว่า เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคารค่อนข้างต่ำมาก ซึ่งการซื้อพันธบัตรเพื่อการออมเงินถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ประชาชนจะต้องให้ความสนใจเพราะได้ดอกเบี้ยมากกว่า อีกทั้งยังได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเมืองด้วย ซึ่ง กทม.มีโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้า สาธารณูปโภคเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าจำหน่ายพันธบัตรไว้ที่ 20,000 ล้านบาท
“ในส่วนของการออกสลากการกุศลขณะนี้ค่อนข้างพร้อมพอสมควรแล้ว ขณะนี้รอเพียงแบบของโรงพยาบาลเสร็จสมบูรณ์ ก่อนจะส่งให้ ครม.อนุมัติให้กองสลากฯ รับไปดำเนินการ ซึ่งก็คาดว่าน่าจะออกได้ภายในปลายปีนี้ จากนั้นก็จะจำหน่ายประมาณ 1 ปี น่าจะได้เงินครบตามเป้าที่ตั้งไว้ ส่วนเงินรางวัลก็จะเท่าๆ กับลอตเตอรี่ไม่ต่ำหรือสูงไปกว่านั้น ขณะที่พันธบัตรน่าจะได้ออกในปีหน้า ซึ่งจะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคาร 4-5%” นายธีระชน กล่าว
