กมธ.เรียก 4 โรงเรียนดัง “โรงเรียนบดินทร์เดชาฯ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนสตรีวิทยา” เข้าสอบภายหลังมีการร้องเรียน ว่า มีการเรียกเก็บเงินแปะเจี๊ยะจำนวนมาก
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการตรวจสอบการเรียกเก็บเงินแปะเจี๊ยะ ว่า ขณะนี้ตนให้ทางโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง อาทิ โรงเรียนบดินทร์เดชาฯ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนสตรีวิทยา ที่มีการร้องเรียนการเรียกเก็บแปะเจี๊ยะ โดยให้ส่งข้อมูลบัญชีการรับสมัครเด็กนักเรียน จำนวนการรับสมัครนักเรียน เพื่อให้เห็นว่ามีนักเรียนกระโดดเข้าไปเรียนแบบวิธีพิเศษกี่คน บัญชีรายรับรายจ่ายของโรงเรียน และสมาคมผู้ปกครอง หรือสมาคมศิษย์เก่าของโรงเรียน ว่า มีความเคลื่อนไหวทางการเงินอย่างไร ซึ่งจะทำให้เห็นว่าโรงเรียนเหล่านี้ เรียกรับเงินหรือไม่ ทุกอย่างจะต้องทำให้เกิดความโปร่งใส
“ขณะนี้มีคนเข้ามาร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก เพราะขนาดมี ส.ส.มาร้องไห้กับผมว่าฝากเด็กเข้าไปเรียนแล้ว ก็ยังต้องเสียเงินถึง 6 แสนบาท อย่างนี้ไม่ไหว บ้านเมืองในอนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้าระบบการศึกษายังเป็นอย่างนี้ ซึ่งหากจะต้องรอดูข้อมูลทุกอย่างก็จะทราบความจริง นอกจากนี้ ยังมีการร้องเรียนในส่วนของโรงเรียนสาธิตหลายแห่ง ซึ่งจะได้มีการเรียกข้อมูลตรวจสอบต่อไป” รองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปราบการทุจริต ย้ำ
ด้าน คุณหญิง กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า กมธ.ได้ขอข้อมูลเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายของสมาคมโรงเรียน ทั้ง 4 แห่ง จึงแจ้งให้ กมธ.ทราบว่า สมาคมนั้นตั้งเป็นนิติบุคคล ไม่สามารถสั่งการได้ อย่างไรก็ตาม จะทำหนังสือขอข้อมูลดังกล่าว นอกจากนี้ กมธ.ยังขอข้อมูลการรับเด็ก ซึ่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไปตรวจสอบหลักเกณฑ์รายละเอียด การคัดเลือกเด็ก เมื่อรวบรวมข้อมูลได้จะรีบส่งให้ กมธ.ทันที
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการตรวจสอบการเรียกเก็บเงินแปะเจี๊ยะ ว่า ขณะนี้ตนให้ทางโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง อาทิ โรงเรียนบดินทร์เดชาฯ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนสตรีวิทยา ที่มีการร้องเรียนการเรียกเก็บแปะเจี๊ยะ โดยให้ส่งข้อมูลบัญชีการรับสมัครเด็กนักเรียน จำนวนการรับสมัครนักเรียน เพื่อให้เห็นว่ามีนักเรียนกระโดดเข้าไปเรียนแบบวิธีพิเศษกี่คน บัญชีรายรับรายจ่ายของโรงเรียน และสมาคมผู้ปกครอง หรือสมาคมศิษย์เก่าของโรงเรียน ว่า มีความเคลื่อนไหวทางการเงินอย่างไร ซึ่งจะทำให้เห็นว่าโรงเรียนเหล่านี้ เรียกรับเงินหรือไม่ ทุกอย่างจะต้องทำให้เกิดความโปร่งใส
“ขณะนี้มีคนเข้ามาร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก เพราะขนาดมี ส.ส.มาร้องไห้กับผมว่าฝากเด็กเข้าไปเรียนแล้ว ก็ยังต้องเสียเงินถึง 6 แสนบาท อย่างนี้ไม่ไหว บ้านเมืองในอนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้าระบบการศึกษายังเป็นอย่างนี้ ซึ่งหากจะต้องรอดูข้อมูลทุกอย่างก็จะทราบความจริง นอกจากนี้ ยังมีการร้องเรียนในส่วนของโรงเรียนสาธิตหลายแห่ง ซึ่งจะได้มีการเรียกข้อมูลตรวจสอบต่อไป” รองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปราบการทุจริต ย้ำ
ด้าน คุณหญิง กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า กมธ.ได้ขอข้อมูลเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายของสมาคมโรงเรียน ทั้ง 4 แห่ง จึงแจ้งให้ กมธ.ทราบว่า สมาคมนั้นตั้งเป็นนิติบุคคล ไม่สามารถสั่งการได้ อย่างไรก็ตาม จะทำหนังสือขอข้อมูลดังกล่าว นอกจากนี้ กมธ.ยังขอข้อมูลการรับเด็ก ซึ่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไปตรวจสอบหลักเกณฑ์รายละเอียด การคัดเลือกเด็ก เมื่อรวบรวมข้อมูลได้จะรีบส่งให้ กมธ.ทันที