เตรียมสอบข้อเท็จจริงอุเทน รับน้องโหด สกอ.เตือนระวังไม่มีน้องใหม่

คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ อุเทนถวาย เตรียมเรียกประชุมนักศึกษา-อาจารย์ หาข้อเท็จจริง รับน้องโหด ไม่ปักใจเชื่อน้องใหม่แห่ลาออก เพราะยังไม่เคยเซ็นให้ใคร ขณะที่ เลขา กกอ.เตือนรุ่นพี่อุเทนระวังเจอปัญหาเหมือนปทุมวัน ไม่มีรุ่นน้อง เพราะต้องเข้มงวดคัดเด็กมีคุณภาพเข้าเรียนมากขึ้น

นายสมพงษ์ ชีไธสง คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เปิดเผยว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด คงต้องขอตรวจสอบข้อมูลก่อน และคาดว่า ในวันที่ 8 มิ.ย.จะเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งเปิดเผยรายละเอียดและชี้แจงต่อไป ซึ่งช่วงก่อนเปิดภาคเรียนได้กำชับอาจารย์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งออกประกาศ ห้ามไม่ให้มีการรับน้องที่รุนแรง และเรียกประชุมรุ่นพี่ เพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งยืนยันว่า ได้เตรียมพร้อมป้องกันปัญหาจากการรับน้องเป็นอย่างดี แต่ก็ยอมรับว่า ยังมีอดีตนักศึกษาบางกลุ่มที่ออกจากสถาบันไปแล้ว พยายามเข้ามาแทรกซึมอยู่กับนักศึกษารุ่นพี่ และปลูกฝังให้เกลียดชังนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน

นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการระบุว่า มีนักเรียนกว่า 20 คน ลาออก เพราะกลัวรุ่นพี่ ซึ่งรับน้องด้วยความรุนแรงนั้น ตนยังไม่ปักใจเชื่อ และขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะยังไม่มีรายงานว่ามีนักศึกษาคนใดลาออก และหากมีการลาออกจริงก็ต้องรายงานให้ตนลงนามอนุมัติก่อนที่จะลาออก

“ที่ผ่านมา มีการกำชับมาตลอดและออกประกาศห้ามไม่ให้มีการรับน้องรุนแรง ส่วนกรณีรับน้องรุนแรงที่เคยเกิดขึ้น ก็มีการลงโทษอย่างจริงจังทั้งโทษไล่ออกและสั่งพักการเรียน รวมทั้งได้รวบรวมรายชื่อทั้งหมดของรุ่นพี่ที่เป็นแกนนำในการจัดรับน้อง เพื่อติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว และยังมีรุ่นพี่หลายคนที่ติดโทษดังกล่าวอยู่” นายสมพงษ์ กล่าว

ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขา กกอ.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัย รายงานข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด คาดว่า วันที่ 8 มิ.ย.จะได้รับรายงานดังกล่าว ซึ่งหากกิจกรรมที่จัดไม่เป็นไปตามระเบียบที่ ศธ.ประกาศไปก่อนหน้านี้ ก็จะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบหาข้อเท็จจริง เพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ ซึ่งต้องไล่ตั้งแต่ระดับผู้บริหารมหาวิทยาลัย เพราะในระเบียบระบุไว้อยู่แล้วว่า การจัดกิจกรรมใดของนักศึกษาต้องอยู่ในการกำกับดูแลของผู้บริหารสถาบัน ไปจนถึงรุ่นพี่ที่เป็นผู้สั่งการ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เพราะที่ผ่านมาทุกหน่วยงานได้รณรงค์เรื่องการรับน้องอย่างสร้างสรรค์มาโดยตลอด ขณะที่ก็มีนักศึกษาของอุเทนถวาย และสถาบันเทคโนโลยีวิทยาเขตปทุมวัน พยายามทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน แต่ก็ยังมีการรับน้องที่รุนแรงเกิดขึ้น อีกทั้งยังมีรุ่นพี่ไปปลูกฝังรุ่นน้องให้เป็นคู่อริกันอีก ซึ่งก็ต้องพยายามทำให้เด็กกลุ่มดีมีมากขึ้น ส่วนกลุ่มที่ไม่ดีก็ต้องพยายามแก้ปัญหา

“มาตรการหนึ่งที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาการใช้ความรุนแรง คือ การคัดเลือกนักเรียนที่มีคุณภาพเข้าเรียน หรือการใช้เกณฑ์การคัดเลือกที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งปทุมวันก็ประสบปัญหาว่านักเรียนที่มาสมัครสอบ ไม่สามารถทำคะแนนได้ผ่านเกณฑ์ ก็ต้องฝากรุ่นพี่ว่า ต่อไปอุเทนถวายก็อาจจะประสบปัญหาเช่นเดียวกัน และไม่มีรุ่นน้องเข้าเรียน ซึ่งคณาจารย์ของอุเทนถวายก็วิตกในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน และทราบว่า จะมีการนัดประชุมนักศึกษา เพื่อกำชับเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้นักศึกษาของอุเทนถวายเป็นแบบอย่างที่ดีกับรุ่นน้อง ไม่ใช้ความรุนแรง ทำกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ และเลิกค่านิยมเป็นคู่อริกับสถาบันอื่น”เลขาธิการ กกอ.กล่าว

ดร.สุเมธ กล่าวอีกว่า ต้องชื่นชมรุ่นน้องที่ถูกกระทำและออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ซึ่งหากรุ่นน้องแจ้งกับอาจารย์ว่ารุ่นพี่เป็นใคร เพื่อให้ทางมหาวิทยาลัยลงโทษ โดยระดับโทษมีตั้งแต่พักการเรียนจนถึงไล่ออก ก็จะเป็นการดูแลไม่ให้รุ่นพี่ไปปลูกฝังค่านิยมผิดๆ กับรุ่นน้องได้อีก อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบ วิทยาเขตอุเทนถวาย มีปัญหาเรื่องการรับน้องรุนแรงอยู่เพียงคณะเดียว คือ คณะเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม ซึ่งต้องดูแลอย่างเข้มงวด

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปดำเนินงานตรวจสอบแล้ว และจะรายงานให้ตนทราบในการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ ในวันที่ 8 มิ.ย.ซึ่งหากพบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง จะมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับนักศึกษารุ่นพี่ไปจนถึงผู้บริหาร เพราะถือว่ากระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการไปแล้วว่าให้มีการรับน้องอย่างสร้างสรรค์ ส่วนเรื่องโทษนั้นจะต้องดูผลจากการสอบสวนของคณะกรรมการที่จะมีการตั้งขึ้นมาก่อน

“ยืนยันว่า หากผลจากการสอบสวนพบว่ามีการรับน้องโดยบังคับให้กินกระดาษตามที่ร้องเรียนจริง จะต้องมีผู้รับผิดชอบ และต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด ซึ่งถ้าผิดจริงผมเอาจริงแน่” นายจุรินทร์ กล่าว