พบช้างเร่ร่อน 60 เชือก ลดลงจากต้นปี จาก 200 เชือก ส่วนใหญ่แฝงตัวตามรอยต่อพื้นที่กรุงเทพฯ ประชาชนแจ้งพบมากที่สุดที่เขตบางกะปิ กทม.เตรียมตรวจการเคลื่อนย้ายสัตว์ ส่งช้างกลับบ้าน พร้อมวอนประชาชนแจ้งเบาะแสผ่านทางสายด่วน กทม.1555
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารสำนักงานเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขต 50 เขต ครั้งที่ 3/2552 โดยมีนายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 4 สำนักเทศกิจ
นายธีระชน กล่าวถึงการแก้ปัญหาช้างเร่ร่อน ว่า กทม.ดำเนินโครงการช้างยิ้ม เพื่อให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญต่อปัญหาการนำช้างมาเร่ร่อนในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจากการสำรวจจำนวนช้างเร่ร่อนในกรุงเทพมหานคร พบว่า ขณะนี้มีประมาณ 60 เชือก ลดลงจากต้นปีที่มีมากกว่า 200 เชือก ส่วนใหญ่จะอยู่ตามรอยต่อของกรุงเทพมหานครกับจังหวัดใกล้เคียง โดยเขตที่มีการแจ้งพบช้างเร่ร่อนมากที่สุด ได้แก่ เขตบางกะปิ 22 ครั้ง รองลงมา เขตคลองเตย 12 ครั้ง เขตจตุจักร 10 ครั้ง เขตสาทร 10 ครั้ง เขตบางเขน 7 ครั้ง เขตยานนาวา 7 ครั้ง เขตบางซื่อ 6 ครั้ง และเขตวังทองหลาง 6 ครั้ง
ปัจจุบัน กทม.ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เกือบ 30 หน่วยงาน แก้ปัญหาช้างเร่ร่อนให้เป็นรูปธรรม และได้ผล ในส่วนของ กทม.ได้หารือกับกรมปศุสัตว์ตรวจสอบการเคลื่อนย้ายสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติพร้อมรับซื้อช้างเพิ่มในปีนี้อีก 18 เชือก โดยจะนำช้างที่ซื้อไปฟื้นฟูแล้วส่งกลับเข้าป่าที่จังหวัดสกลนคร ลพบุรี และลำปาง โดยขอให้เจ้าหน้าที่เทศกิจประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของช้างทราบ ด้านภาคเอกชนบางแห่งยินดีรับช้างเพื่อการนักท่องเที่ยว แล้วมีค่าใช้จ่ายรายเดือนและค่าอาหารให้เจ้าของ เช่น สวนนงนุชรับได้ 2 เชือก วังช้างอยุธยาจะรับได้ 80 เชือก แต่ค่าอาหารช้างตกเดือนละประมาณ 10,000 บาท จึงได้มีแนวทางในการจัดตั้งกองทุนสำหรับฝึกอาชีพแก่ควาญช้างเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพ มีรายได้เพิ่ม ไม่ต้องนำช้างมาเร่ร่อนใน กทม.
นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการโทรศัพท์แจ้งเบาะแสเมื่อพบช้างเร่ร่อน โดยแจ้งเบาะแสหากพบช้างเร่ร่อนผ่านทางสายด่วน กทม.1555 เพื่อเจ้าหน้าที่เทศกิจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรีบลงพื้นที่ตรวจสอบและฝังไมโครชิปแก่ช้าง หากพบว่า เป็นช้างที่ฝังไมโครชิปแล้วจะออกหนังสือเตือนให้ จากนั้นจะผลักดันกลับบ้านต่อไป
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารสำนักงานเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขต 50 เขต ครั้งที่ 3/2552 โดยมีนายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 4 สำนักเทศกิจ
นายธีระชน กล่าวถึงการแก้ปัญหาช้างเร่ร่อน ว่า กทม.ดำเนินโครงการช้างยิ้ม เพื่อให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญต่อปัญหาการนำช้างมาเร่ร่อนในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจากการสำรวจจำนวนช้างเร่ร่อนในกรุงเทพมหานคร พบว่า ขณะนี้มีประมาณ 60 เชือก ลดลงจากต้นปีที่มีมากกว่า 200 เชือก ส่วนใหญ่จะอยู่ตามรอยต่อของกรุงเทพมหานครกับจังหวัดใกล้เคียง โดยเขตที่มีการแจ้งพบช้างเร่ร่อนมากที่สุด ได้แก่ เขตบางกะปิ 22 ครั้ง รองลงมา เขตคลองเตย 12 ครั้ง เขตจตุจักร 10 ครั้ง เขตสาทร 10 ครั้ง เขตบางเขน 7 ครั้ง เขตยานนาวา 7 ครั้ง เขตบางซื่อ 6 ครั้ง และเขตวังทองหลาง 6 ครั้ง
ปัจจุบัน กทม.ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เกือบ 30 หน่วยงาน แก้ปัญหาช้างเร่ร่อนให้เป็นรูปธรรม และได้ผล ในส่วนของ กทม.ได้หารือกับกรมปศุสัตว์ตรวจสอบการเคลื่อนย้ายสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติพร้อมรับซื้อช้างเพิ่มในปีนี้อีก 18 เชือก โดยจะนำช้างที่ซื้อไปฟื้นฟูแล้วส่งกลับเข้าป่าที่จังหวัดสกลนคร ลพบุรี และลำปาง โดยขอให้เจ้าหน้าที่เทศกิจประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของช้างทราบ ด้านภาคเอกชนบางแห่งยินดีรับช้างเพื่อการนักท่องเที่ยว แล้วมีค่าใช้จ่ายรายเดือนและค่าอาหารให้เจ้าของ เช่น สวนนงนุชรับได้ 2 เชือก วังช้างอยุธยาจะรับได้ 80 เชือก แต่ค่าอาหารช้างตกเดือนละประมาณ 10,000 บาท จึงได้มีแนวทางในการจัดตั้งกองทุนสำหรับฝึกอาชีพแก่ควาญช้างเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพ มีรายได้เพิ่ม ไม่ต้องนำช้างมาเร่ร่อนใน กทม.
นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการโทรศัพท์แจ้งเบาะแสเมื่อพบช้างเร่ร่อน โดยแจ้งเบาะแสหากพบช้างเร่ร่อนผ่านทางสายด่วน กทม.1555 เพื่อเจ้าหน้าที่เทศกิจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรีบลงพื้นที่ตรวจสอบและฝังไมโครชิปแก่ช้าง หากพบว่า เป็นช้างที่ฝังไมโครชิปแล้วจะออกหนังสือเตือนให้ จากนั้นจะผลักดันกลับบ้านต่อไป
