"สุขุมพันธุ์"นำทีมถกมท.1 จันทร์นี้ 4 เรื่องทั้งรถดับเพลิงฉาว-ออกสลาก-พันธบัตร-งบกระตุุ้นเศรษฐกิจ เผยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสภาพรถดับเพลิงแล้ว ดึงอาจารย์จาก จุฬาฯ-มจธ.ร่วมด้วย เผย กก.ชุดนี้ไม่ผลต่อสัญญาจัดซื้อ ขณะที่สัปดาห์หน้าส่งหนังสือถึง ก.คลัง เพื่อขอยกเว้นภาษีนำเข้า-มูลค่าเพิ่มจำนวน 1,200 ล้านบาท ในฐานะเป็นยุทธภัณฑ์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสินค้ารถ เรือ และอุปกรณ์ดับเพลิง ที่ กทม.จัดซื้อจากบริษัท สไตเออร์ฯ ประเทศออสเตรีย มูลค่า 6,687 ล้านบาทแล้ว หลังจอดอยู่ในโกดังสินค้าเอกชนและท่าเรือมาหลายปีแล้ว โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถว่าจะทรุดโทรมไปแล้วเท่าใดเพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไปในอนาคต ทั้งนี้
คณะกรรมการชุดตรวจสอบสินค้ารถดับเพลิงดังกล่าว ประกอบด้วย นายธีระ ประสิทธิพร รอง ผอ.สำนักการโยธา กทม.ดำรงตำแหน่งประธาน พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ รอง ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม.รองประธาน, พ.ต.ท.เมธี ทานาค ผอ.กองปฏิบัติการดับเพลิง 3 สปภ., นายประสาธน์ สัญญานุจิต ผอ.กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง, นายเรืองเดช พงษ์จันทร์โอ นิติกร 7 กลุ่มงานนิติกรรมสัญญา สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักปลัด กทม., รศ.สุรเชษฐ์ ชุติมา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, ผศ.ก่อเกียรติ บุญชูกุศล จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายจีรศักดิ์ บุญโชคช่วย ผอ.กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สปภ.
นายสัญญา จันทรัตน์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า คณะกรรมการชุดนี้จะไม่มีผลต่อสัญญาโครงการจัดซื้อในเรื่องของกระบวนการตรวจรับสินค้าโครงการแต่อย่างใด เป็นเพียงตรวจสอบสินค้าว่ามีจำนวนครบถ้วนตามข้อตกลง ตรวจสอบสภาพความชำรุดบกพร่องของสินค้าก่อนจะมาพิจารณาแนวทางกฎหมายต่อไปเท่านั้น โดยคณะกรรมการฯจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับสื่อมวลชนเร็วๆ นี้
นายสัญญา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการฟ้องร้องบริษัท สไตเออร์ฯเพื่อยกเลิกสัญญาโครงการตามที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีนโยบายว่า ตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีนั้นหากหน่วยงานใดต้องการฟ้องร้องใคร จะต้องทำเรื่องเสนอให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.)พิจารณาก่อน ซึ่งหากผลออกมาเช่นไรหน่วยงานนั้นค่อยดำเนินการตามหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นกรณีนี้ กทม.จึงต้องรอคำพิจารณาจากอสส.ว่าจะมีแนวทางอย่างไรก่อน หาก อสส.เห็นไม่ควรฟ้อง กทม.ก็ค่อยฟ้องร้องยกเลิกสัญญาเอง จะฟ้องร้องในขณะนี้ไม่ได้
ขณะที่นางมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯกทม.ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาข้อตกลงซื้อขายรถ เรือดับเพลิง และอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้ากทม.จะทำหนังสือถึงกระทรวงคลัง และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบให้ยกเว้นภาษีนำเข้ากับภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 1,200 ล้านบาท ให้ กทม.ในฐานะที่สินค้าโครงการรถดับเพลิงควรจะอยู่ในประเภทสินค้ายุทธภัณฑ์เช่นเดียวกับที่กระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดซื้อซึ่งจะได้รับการยกเว้นภาษีดังกล่าว
รวมถึงการทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีอีกฉบับเกี่ยวกับให้เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการร่วม 6 ฝ่าย ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง สำนักอัยการสูงสุด และ กทม.เพื่อมาหารือการแก้ไขปัญหาและแนวทางการดำเนินการต่อไป เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการระดับชาติที่มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การให้ กทม.พิจารณาฝ่ายเดียวอาจจะมีอำนาจไม่เพียงพอ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน นี้เวลา 09.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.และคณะรองผู้ว่าฯกทม. จะเข้าพบกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไทยเพื่อเข้าอวยพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด พร้อมกับจะหารือข้อราชการใน 4 เรื่องด้วยกันได้แก่ โครงการจัดซื้อรถเรือ และอุปกรณ์ดับเพลิง , การออกสลากพิเศษการกุศล การออกพันธบัตรกทม. และการของบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมจากรัฐบาลอีก 3,000 ล้านบาทเพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสินค้ารถ เรือ และอุปกรณ์ดับเพลิง ที่ กทม.จัดซื้อจากบริษัท สไตเออร์ฯ ประเทศออสเตรีย มูลค่า 6,687 ล้านบาทแล้ว หลังจอดอยู่ในโกดังสินค้าเอกชนและท่าเรือมาหลายปีแล้ว โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถว่าจะทรุดโทรมไปแล้วเท่าใดเพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไปในอนาคต ทั้งนี้
คณะกรรมการชุดตรวจสอบสินค้ารถดับเพลิงดังกล่าว ประกอบด้วย นายธีระ ประสิทธิพร รอง ผอ.สำนักการโยธา กทม.ดำรงตำแหน่งประธาน พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ รอง ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม.รองประธาน, พ.ต.ท.เมธี ทานาค ผอ.กองปฏิบัติการดับเพลิง 3 สปภ., นายประสาธน์ สัญญานุจิต ผอ.กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง, นายเรืองเดช พงษ์จันทร์โอ นิติกร 7 กลุ่มงานนิติกรรมสัญญา สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักปลัด กทม., รศ.สุรเชษฐ์ ชุติมา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, ผศ.ก่อเกียรติ บุญชูกุศล จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายจีรศักดิ์ บุญโชคช่วย ผอ.กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สปภ.
นายสัญญา จันทรัตน์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า คณะกรรมการชุดนี้จะไม่มีผลต่อสัญญาโครงการจัดซื้อในเรื่องของกระบวนการตรวจรับสินค้าโครงการแต่อย่างใด เป็นเพียงตรวจสอบสินค้าว่ามีจำนวนครบถ้วนตามข้อตกลง ตรวจสอบสภาพความชำรุดบกพร่องของสินค้าก่อนจะมาพิจารณาแนวทางกฎหมายต่อไปเท่านั้น โดยคณะกรรมการฯจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับสื่อมวลชนเร็วๆ นี้
นายสัญญา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการฟ้องร้องบริษัท สไตเออร์ฯเพื่อยกเลิกสัญญาโครงการตามที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีนโยบายว่า ตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีนั้นหากหน่วยงานใดต้องการฟ้องร้องใคร จะต้องทำเรื่องเสนอให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.)พิจารณาก่อน ซึ่งหากผลออกมาเช่นไรหน่วยงานนั้นค่อยดำเนินการตามหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นกรณีนี้ กทม.จึงต้องรอคำพิจารณาจากอสส.ว่าจะมีแนวทางอย่างไรก่อน หาก อสส.เห็นไม่ควรฟ้อง กทม.ก็ค่อยฟ้องร้องยกเลิกสัญญาเอง จะฟ้องร้องในขณะนี้ไม่ได้
ขณะที่นางมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯกทม.ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาข้อตกลงซื้อขายรถ เรือดับเพลิง และอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้ากทม.จะทำหนังสือถึงกระทรวงคลัง และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบให้ยกเว้นภาษีนำเข้ากับภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 1,200 ล้านบาท ให้ กทม.ในฐานะที่สินค้าโครงการรถดับเพลิงควรจะอยู่ในประเภทสินค้ายุทธภัณฑ์เช่นเดียวกับที่กระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดซื้อซึ่งจะได้รับการยกเว้นภาษีดังกล่าว
รวมถึงการทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีอีกฉบับเกี่ยวกับให้เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการร่วม 6 ฝ่าย ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง สำนักอัยการสูงสุด และ กทม.เพื่อมาหารือการแก้ไขปัญหาและแนวทางการดำเนินการต่อไป เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการระดับชาติที่มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การให้ กทม.พิจารณาฝ่ายเดียวอาจจะมีอำนาจไม่เพียงพอ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน นี้เวลา 09.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.และคณะรองผู้ว่าฯกทม. จะเข้าพบกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไทยเพื่อเข้าอวยพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด พร้อมกับจะหารือข้อราชการใน 4 เรื่องด้วยกันได้แก่ โครงการจัดซื้อรถเรือ และอุปกรณ์ดับเพลิง , การออกสลากพิเศษการกุศล การออกพันธบัตรกทม. และการของบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมจากรัฐบาลอีก 3,000 ล้านบาทเพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจ
