รพ.ปิยะเวท ลงนามสัญญารักษาผู้ป่วยโรคหัวใจในระบบบัตรทอง เริ่ม 15 มิ.ย.นี้ เฉพาะผู้ป่วยส่งต่อ รอคิวนานเกิน 3 เดือน และกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินเท่านั้น เล็งทำสัญญา รพ.กรุงเทพ พญาไท เพิ่ม ราคาเท่ากับที่ผ่าตัดในโรงพยาบาลรัฐ ชี้เศรษฐกิจแย่ รพ.เอกชน ยอมลดราคาผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ถูกกว่าผู้ป่วยทั่วไป 70% เหลือ 1.2 แสนบาท/คน จากเดิม 4-5 แสนบาท
วันที่ 2 มิถุนายน ที่โรงพยาบาลปิยะเวท นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ได้ลงนามในสัญญาให้บริการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าร่วมกับ ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลปิยะเวท โดย นพ.สุรเดช กล่าวว่า สปสช.ได้ขยายการบริการรักษาโรคหัวใจให้กับผู้ป่วยบัตรทอง โดยสามารถรักษาที่โรงพยาบาลปิยะเวทได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป ทั้งนี้ โรงพยาบาลปิยะเวท จะรับรักษาเฉพาะกรณีผู้ป่วยส่งต่อที่ต้องมีใบส่งตัวจากโรงพยาบาลตามสิทธิ์ ที่มีปัญหาต้องรอคิวนานมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาส่งต่อตามความเหมาะสม และกรณีป่วยฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันผู้ป่วยโรคหัวใจต้องรอคิวผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ หรือหัตถการหัวใจ นานคิวละ 3 เดือน-2 ปี และมีหลายรายที่ต้องเสียชีวิตระหว่างรอการรักษา
นพ.สุรเดช กล่าวว่า นอกจากนี้ สปสช.ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาทำสัญญากับโรงพยาบาลเอกชนอื่นๆ เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ พญาไท เข้าร่วมโรงการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจเช่นเดียวกัน ซึ่งอัตราการคิดค่ารักษาพยาบาล สปสช.จะใช้อัตราเดียวกับโรงพยาบาลรัฐ เช่น ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ 1.2 แสนบาท ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนคิดค่ารักษาจากผู้ป่วยทั่วไป ประมาณ 4-5 แสนบาท
ศ.นพ.นิธิ กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการกับ สปสช.เพราะ โรงพยาบาลปิยะเวท มีความเชี่ยวชาญด้วยการรักษาโรคหัวใจ และมีศักยภาพรองรับผู้ป่วยจำนวนมากได้ทั้งด้านบุคลากร เตียง และคุณภาพให้บริการ โดยสามารถรองรับรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจได้จำนวนมาก โดยทางโรงพยาบาลคิดค่ารักษาจากผู้ป่วยบัตรทอง ถูกกว่าผู้ป่วยทั่วไป มากถึงร้อยละ 70 แต่เป็นอัตราที่ไม่ทำให้โรงพยาบาลขาดทุน เพราะโรงพยาบาลจะมีผู้ป่วยมารักษาเพิ่มขึ้น ถือเป็นการใช้สถานที่ บุคลากรให้คุ้มค่า ในทางตรงข้าม คาดการณ์ว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับโรงพยาบาลเดือนละ 10-20 ล้านบาท ซึ่งในอนาคต จะพิจารณาเข้าร่วมโครงการกับ สปสช.เพื่อรักษาโรคอื่นๆ เช่น กระดูก สมอง กายภาพบำบัด เป็นต้น
ด้าน พญ.ธัญรัตน์ อร่ามเสรีวงศ์ อายุรแพทย์หัวใจ สถาบันหัวใจเพอร์เฟคฮาร์ท โรงพยาบาลปิยะเวท กล่าวว่า โรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยโรคหัวใจได้เดือนละ 320 คน และรองรับผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจได้ เดือนละ 100 ราย ขณะที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคหัวใจเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เพียงเดือนละ 50-60 คนเท่านั้น ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยชาวต่างชาติ ร้อยละ 50
วันที่ 2 มิถุนายน ที่โรงพยาบาลปิยะเวท นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ได้ลงนามในสัญญาให้บริการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าร่วมกับ ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลปิยะเวท โดย นพ.สุรเดช กล่าวว่า สปสช.ได้ขยายการบริการรักษาโรคหัวใจให้กับผู้ป่วยบัตรทอง โดยสามารถรักษาที่โรงพยาบาลปิยะเวทได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป ทั้งนี้ โรงพยาบาลปิยะเวท จะรับรักษาเฉพาะกรณีผู้ป่วยส่งต่อที่ต้องมีใบส่งตัวจากโรงพยาบาลตามสิทธิ์ ที่มีปัญหาต้องรอคิวนานมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาส่งต่อตามความเหมาะสม และกรณีป่วยฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันผู้ป่วยโรคหัวใจต้องรอคิวผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ หรือหัตถการหัวใจ นานคิวละ 3 เดือน-2 ปี และมีหลายรายที่ต้องเสียชีวิตระหว่างรอการรักษา
นพ.สุรเดช กล่าวว่า นอกจากนี้ สปสช.ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาทำสัญญากับโรงพยาบาลเอกชนอื่นๆ เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ พญาไท เข้าร่วมโรงการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจเช่นเดียวกัน ซึ่งอัตราการคิดค่ารักษาพยาบาล สปสช.จะใช้อัตราเดียวกับโรงพยาบาลรัฐ เช่น ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ 1.2 แสนบาท ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนคิดค่ารักษาจากผู้ป่วยทั่วไป ประมาณ 4-5 แสนบาท
ศ.นพ.นิธิ กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการกับ สปสช.เพราะ โรงพยาบาลปิยะเวท มีความเชี่ยวชาญด้วยการรักษาโรคหัวใจ และมีศักยภาพรองรับผู้ป่วยจำนวนมากได้ทั้งด้านบุคลากร เตียง และคุณภาพให้บริการ โดยสามารถรองรับรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจได้จำนวนมาก โดยทางโรงพยาบาลคิดค่ารักษาจากผู้ป่วยบัตรทอง ถูกกว่าผู้ป่วยทั่วไป มากถึงร้อยละ 70 แต่เป็นอัตราที่ไม่ทำให้โรงพยาบาลขาดทุน เพราะโรงพยาบาลจะมีผู้ป่วยมารักษาเพิ่มขึ้น ถือเป็นการใช้สถานที่ บุคลากรให้คุ้มค่า ในทางตรงข้าม คาดการณ์ว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับโรงพยาบาลเดือนละ 10-20 ล้านบาท ซึ่งในอนาคต จะพิจารณาเข้าร่วมโครงการกับ สปสช.เพื่อรักษาโรคอื่นๆ เช่น กระดูก สมอง กายภาพบำบัด เป็นต้น
ด้าน พญ.ธัญรัตน์ อร่ามเสรีวงศ์ อายุรแพทย์หัวใจ สถาบันหัวใจเพอร์เฟคฮาร์ท โรงพยาบาลปิยะเวท กล่าวว่า โรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยโรคหัวใจได้เดือนละ 320 คน และรองรับผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจได้ เดือนละ 100 ราย ขณะที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคหัวใจเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เพียงเดือนละ 50-60 คนเท่านั้น ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยชาวต่างชาติ ร้อยละ 50
