"มานิต" ไม่น้อยใจ ติดรองบ๊วยรัฐมนตรีที่ประชาชนไม่รู้จัก อาจเพราะเป็นรมช.สธ.แค่ 4 เดือน ยันไม่ท้อ ฟิตปรับการทำงานออกทีวีบ่อยขึ้น “ธีระ” แจงเป็นรัฐมนตรีใหม่ชื่ออาจยังไม่คุ้น ยันไม่เคยท้อและขอเวลา 3 เดือนสร้างชื่อ-ลงพื้นที่ต่างจังหวัดถี่ขึ้น ด้าน “ชัยวุฒิ” ให้มองที่เนื้องาน
วันที่ 28 พฤษภาคม นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงผลสำรวจของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ซึ่งติด 1 ใน 10 กลุ่มรัฐมนตรีที่ประชาชนไม่รู้จัก ว่า ไม่รู้สึกน้อยใจ เนื่องจากตนเพิ่งดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วย สธ.เพียง 4 เดือน เท่านั้น เชื่อว่าสาเหตุที่ประชาชนไม่รู้จักมาจากการสื่อสารที่อาจจะเข้าถึงประชาชนไม่ตรงจุด แต่ไม่ท้อและจะปรับปรุงการทำงานและทำงานอย่างเต็มที่ สำหรับการทำงานที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่รณรงค์ปราบโรคชิคุนกุนยา ตรวจสนามบินสุวรรณภูมิป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ รณรงค์ประชาชนกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เป็นต้น
"ไม่หวั่นวิตกหากนายกรัฐมนตรีจะนำผลสำรวจครั้งนี้ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะที่ผ่านมาคิดว่าได้ทำงานอย่างเต็มทีแล้ว เวลาที่ออกข่าวผ่านสื่อแต่ละทีผู้ใหญ่หลายคนบอกว่า อย่าออกทีวีบ่อยเดี๋ยวคนอื่นหมั่นไส้ แต่ต่อไปคงต้องออกทีวีบ่อยขึ้น แล้วเอาเหตุผลนี้ไปชี้แจงว่า ผมยังเป็นรัฐมนตรีที่ประชาชนยังไม่รู้จัก"นายมานิตกล่าว
นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า ตนรับฟังผลโพลที่ว่าประชาชนไม่รู้จัก ทั้งนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่าการสำรวจของเอแบคโพลล์นั้นเป็นการสำรวจที่ไกลปืนเที่ยงเกินไปหรือไม่ โดยส่วนตัวมั่นใจว่าคนกรุงเทพและปริมณฑลรู้จักบทบาทของ วธ.ดี อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ตนยังเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ที่ประชาชนยังไม่รู้จักชื่อมากนัก และที่ผ่านมาอาจจะยังทำงานหนักไม่พอ กระนั้นก็ได้เผยแพร่การทำงานของตนผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องเข้าใจว่า งาน วธ. เป็นงานที่ยากเพราะเป็นเรื่องของนามธรรม ชาวบ้านมองไม่เห็นว่า วธ.ทำงานเกี่ยวกับอะไร และไม่รู้สึกท้อแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าภายในระยะเวลา 3 เดือนจะทำให้ประชาชนในต่างจังหวัดรู้จักบทบาทของ วธ.มากขึ้น โดยเฉพาะงานเกี่ยวกับการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย และสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ในระดับชุมชน ตำบล ซึ่งตนจะลงพื้นที่ในต่างจังหวัดให้มากขึ้นด้วย
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า รู้สึกเฉย ๆ เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเพิ่งเข้ามาเป็นรัฐมนตรีครั้งแรก ต้องการให้ประชาชนเห็นผลงานมากกว่าชื่อเสียง และจากประสบการณ์ที่เป็นนักการเมือง รู้ดีว่าหากต้องการจะมีชื่อต้องทำอย่างไร ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่ค่อยอยากดัง และไม่ชอบพูดอะไรแรง ๆ ขอให้มองกันที่เนื้องาน