แพทย์เผยผู้ป่วยอาจดื้อยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ 2009ได้แต่เป็นเรื่องธรรมชาติ

ผู้เชี่ยวชาญเผยการดื้อยารักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะรักษามานานแค่ไหน แพทย์ผู้รักษาสามารถตรวจสอบได้ แนะผู้ป่วยไม่ควรซื้อยารับประทานเอง ส่วนประเทศไทยมียารักษา 2 ชนิด แบบกิน และ แบบพ่นเข้าคอ หากดื้อชนิดหนึ่งสามารถเปลี่ยนไปใช้อีกชนิดได้

ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ กล่าวถึงกรณีการใช้ยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดใดก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าจะทำให้ผู้ป่วยเกิดการดื้อยาได้ จึงแนะนำการใช้ยาว่าควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ยารักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นั้นไม่สามารถไปหาซื้อมารับประทานเองได้เหมือนกับยาพาราเซตามอล หรือยาแก้ไอน้ำดำทั่วไป ควรใช้กันในวงจำกัดและใช้เท่าที่จำเป็น โดยมากแพทย์จะนำเชื้อไปตรวจความไวต่อยาก่อน แล้วแพทย์จะทราบว่าเชื้อโรคในร่างกายผู้ป่วยนั้นดื้อยาหรือไม่ เพื่อให้เป็นข้อมูลตัดสินใจเลือกยาที่จะนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยต่อไป ซึ่งการดื้อยานั้นเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่สามารถบอกเวลาที่แน่นอนได้ ผู้ป่วยบางรายก็ดื้อยาเลยทั้งๆ ที่ยังไม่เคยใช้ยานั้นมาก่อน

ทั้งนี้ ประเทศไทย มีการใช้ยาโอเซลทามีเวียร์ รักษา เป็นยาเม็ดรับประทานง่าย ส่วนยาอีก 1 ตัวที่สามารถใช้รักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 คือ รีเซ็นซาซานามีเวียร์ ซึ่งมีลักษณะเป็นผงเวลาใช้ให้พ่นไปในลำคอ สำหรับยารีเซ็นซาซานามีเวียร์ เพิ่งเข้ามาจดทะเบียนจึงยังไม่มีการสตอกไว้ แต่ก็นับว่าใช้ยากกว่า โอเซลทามีเวียร์ เช่นหากผู้ป่วยต้องใส่เครื่องเจาะคอ ก็จะใช้ยานี้ได้ลำบาก

ศ.เกียรติคุณ น.พ.ประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในอนาคตผู้ผลิตยาที่ต้องการขายของก็ต้องผลิตยาใหม่ๆ ออกมาอีก แต่ก็จะมีปัญหาอีกว่า จะสามารถผลิตทันกับความต้องการหรือไม่ จึงขอแนะนำว่า ไม่ควรไปซื้อยาทานเอง เพื่อให้อยู่ในความดูแลของแพทย์ที่จะให้การรักษาที่เหมาะกับอาการ