xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายต้านเหล้า จี้สภา สอบ ส.ส.หนองคาย พิสูจน์ “เมา-ไม่เมา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมคิด  บาลไธสง  ส.ส.หนองคาย
เครือข่ายต้านเหล้าจี้สภาสอบส.ส.หนองคาย เพื่อไทย เมาจริงหรือไม่ เสนอออกกฎห้ามดื่มก่อนร่วมประชุม ชี้ภาพลักษณ์ประเทศชาติเสียหาย ด้านนักวิชาการจี้รัฐ จัดการเรื่องเมาแล้วขับอย่างจริงจัง ยกเป็นวาระแห่งชาติ

นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรมีการตรวจสอบกรณีที่มีข่าวระบุว่า นายสมคิด บาลไธสง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย มีกลิ่นสุราขณะที่อยู่ในบริเวณห้องประชุมรัฐสภา จนเป็นต้นเหตุของการทะเลาะวิวาทของสภา ที่มักอ้างตนเองว่าเป็นผู้ทรงเกียรติ และหากพบว่านายสมคิด มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้าประชุมจริง ควรมีการลงโทษตามจรรยาบรรณของสภาฯ อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้สภาฯมีการออกกฎระเบียบ ไม่ให้ผู้เข้าร่วมประชุมสภาทั้งสส.และสว.ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อยก่อนการประชุม 24 ชม. เพราะการประชุมเรื่องของชาติ ควรใช้สติปัญญา ที่ไม่ถูกรบกวนด้วยน้ำเมา ที่ทำลายสติ และสมอง

“หากเรื่องดังกล่าวเป็นจริงตามข่าว จะสร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ทั้งใน และนอกประเทศอย่างมาก เพราะในสภาผู้แทนราษฎรที่มักเรียกกันเองว่าเป็นผู้ทรงเกียรติ มีความรู้ ระดับปัญญาชน เป็นตัวแทนของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นการที่จะดื่มน้ำเมาก่อนเข้าประชุม จนเป็นเหตุของความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสภาอันทรงเกียรติเช่นนี้ เห็นว่าไม่ถูกต้อง และไม่สมควรอย่างยิ่ง ทางสภาต้องดำเนินการอะไรบางอย่างให้เกิดความชัดเจน เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้เยาวชนอีกด้วย”นายสงกรานต์ กล่าว

นายสงกรานต์ กล่าวต่อว่า เมื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุของความรุนแรง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ควรออกมาตรการใดมาตรการหนึ่ง เพื่อลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่นเดียวกันกับในสภาเช่นกัน อย่างในช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาวมีการดื่มน้ำเมาทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาทำให้เห็นแล้วว่า ทั้งๆที่มีปัจจัยให้อุบัติเหตุควรน้อยลง แต่ยอดผู้เสียชีวิตกลับเพิ่มขึ้น และถ้านับยอดหลังจาก 7 วันอันตราย ซึ่งทะยอยเดินทางกลับด้วย ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มมากกว่า 400 รายอย่างแน่นอน

“คิดว่า หากพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานคณะกรรมการนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คงจะใช้โอกาสนี้ ไถ่บาปด้วยการทบทวนมาตรการห้ามขายน้ำเมา ช่วงเทศกาลสงกรานต์ และปีใหม่ ซึ่งมีหลักฐานทางวิชาการชัดเจนว่าจะลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้แน่นอน ซึ่งขณะนี้ดูแนวโน้มกรรมการท่านอื่นๆยอมรับในข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง และพร้อมจะแก้ไขแล้ว”นายสงกรานต์กล่าว

ด้าน นพ. ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดการเรื่องการเมาแล้วขับเป็นวาระแห่งชาติ แล้วทุ่มเททรัพยากรบุคคลตลอดจนงบประมาณกับการแก้วิกฤตความรุนแรง และความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นจากพิษน้ำเมาอย่างจริงจัง เพราะข้อมูลศูนย์นเรนทร ที่ชี้ว่าถ้าป้องกันการเมาแล้วขับได้จริง จะลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรได้ 128 -222 คน และลดความสูญเสียได้ถึง 691.2 ล้านบาท

ผู้จัดการศวปถ. กล่าวว่า นอกจากข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย( ปภ.)ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตในสงกรานต์นี้รวม 373 ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว 5 ราย แต่หากเทียบข้อมูลของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติเก็บข้อมูลผู้เสียชีวิตหลังจาก 7 วันอันตรายมาแล้ว พบว่ามีจำนวน 448 ราย สาเหตุของการเสียชีวิตกว่า57.4%มาจากการดื่มสุรา

“แม้ว่าข้อมูลของปภ.พบว่ามีจำนวนรถที่ถูกเรียกตรวจปี 2552จำนวน 5.27 ล้านคันเพิ่มขึ้นจากปี 2551 ถึง 1.19 แสนคัน แต่ได้ดำเนินคดีกับผู้ที่เมาแล้วขับได้เพียง 13,921 คดีเท่านั้น ถือว่ามีการดำเนินคดีเมาแล้วขับบนท้องถนนเพียง 3.4% ของคดีทั้งหมด”นพ.ธนะพงศ์ กล่าว

นพ.ธนะพงศ์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการทบทวนและกำหนดมาตรการที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะการมุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ได้แก่ ถนนสายรอง ช่วงเวลาเย็น-กลางคืน การสวมหมวกนิรภัย และการตรวจจับเมาแล้วขับ และต้องมีการสนับสนุนกลไกการทำงาน ทรัพยากร งบประมาณ และติดตามกำกับอย่างจริงจัง ให้เรื่องอุบัติเหตุเป็นวาระแห่งชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น