ผอ.สำนักพัฒนาสังคมสรุปยอดโครงการยิ้มสู้...กู้สร้างอาชีพ 2 วันมีกว่า 1,000 ราย ยอดวงเงินพุ่ง 60 กว่าล้านบาท เขตทวีวัฒนา-ห้วยขวาง มาแรงคนขอกู้เพียบ ส่วนเขตบางรัก ยานนาวา วัฒนาไม่ขอกู้เลย เผยยังเปิดให้ลงทะเบียนไปจนถึงวันที่ 18 พ.ค.นี้ทั้ง 50 เขต ก่อนพบกันในมหกรรมใหญ่ 30 พ.ค.ที่ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น
นางเพียงใจ วิศรุตรัตน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยความคืบหน้า โครงการยิ้มสู้...กู้สร้างอาชีพ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถนำเงินไปลงทุนโดยไม่ต้องกู้เงินนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง โดยสามารถขอสินเชื่อกับธนาคารในโครงการในอัตราดอกเบี้ยไม่ถึง 1% วงเงินตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท ว่า นับแต่ที่กทม.เปิดให้ผู้ที่สนใจลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์การกู้และรับบัตรเข้างานตั้งแต่วันที่ 12-13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ระหว่างเวลา 08.00-16.00 น. ณ สำนักงานเขตที่มีทะเบียนบ้านหรือสำนักงานเขตที่ประกอบอาชีพได้ทั้ง 50 เขต นั้นปรากฏว่าจำนวนผู้มาลงทะเบียนเพื่อแสดงความประสงค์ที่จะขอกู้รวม 2 วัน 1,108 ราย รวมวงเงิน 63,042,500 บาท
โดยแบ่งเป็นวันแรกมีผู้มาลงทะเบียน 637 ราย ยอดเงิน 36,385,500 บาท ซึ่งแสดงความจำนงที่จะขอสินเชื่อกับธนาคารออมสิน 989 ราย ขณะที่ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 120 ราย สำหรับเขตที่มาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์มากสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เขตทวีวัฒนา และเขตห้วยขวาง เขตละ 60 ราย เขตประเวศ 41 ราย เขตบางนา 26 ราย และเขตตลิ่งชัน 24 ราย ส่วนเขตที่ไม่มีผู้มาลงทะเบียนเลยได้แก่เขตบางรัก บางคอแหลม ป้อมปราบฯ และเขตยานนาวา
ส่วนในวันที่ 2 มีผู้มาลงทะเบียนรวม 471 ราย ยอดเงินขอสินเชื่อรวม 26,657,000 บาทเขตที่มีผู้มาลงทะเบียนมากสุดได้แก่ เขตลาดกระบัง 24 ราย ทวีวัฒนา 23 ราย สายไหม 21 ราย หนองจอก 20 ราย และเขตธนบุรี 18 ราย ส่วนเขตที่ไม่มีผู้มาลงทะเบียนเลยยังคงเป็นเขตบางรัก ยานนาวา และวัฒนา รวม 2 วันเขตที่มีผู้ลงทะเบียนแสดงความประสงค์จะขอกู้มากที่สุดได้แก่เขตทวีวัฒนา 83 ราย ห้วยขวาง 71 ราย ประเวศ 61 ราย หนองจอก 43 ราย และเขตบางนา 42 ราย
นางเพียงใจกล่าวอีกว่า ส่วนใหญ่ผู้ที่มาลงทะเบียนแสดงความประสงค์จะขอสินเชื่อจากโครงการยิ้มสู้...กู้สร้างอาชีพ จะเป็นผู้ประกอบอาชีพค้าขายเป็นส่วนใหญ่ เช่น ขายกล้วยทอด ขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง หรือแม้แต่ประกอบอาชีพช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ จนไปถึงรับราชการก็มขอสินเชื่อกับโครงการของเราโดยที่ขอสูงสุดคือวงเงิน 100,000 บาท โดยระบุว่าจะนำไปเป็นทุนหมุนเวียน ปรับปรุงร้านและซื้ออุปกรณ์เข้าร้าน ส่วนผู้ที่สนใจแต่ยังไม่ได้มาลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 18 พ.ค.นี้ ณ สำนักงานเขตของตน
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนที่เขตแล้วให้นำเอกสารประกอบการขอสินเชื่อมายื่นให้กับธนาคารเพื่อรับบัตรอนุมัติเร็ว (Fast Track) ให้ธนาคาร พิจารณาภายใน 2 สัปดาห์ ในวันที่ 30 พฤษภาคม ที่กทม.จะจัดงานมหกรรมยิ้มสู้...กู้สร้างอาชีพ ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. โดยภายในงานมีบริการให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อของธนาคารทั้ง 2 แห่ง แต่หากไม่ได้ลงทะเบียนที่เขตก็สามารถมาขอสินเชื่อได้ที่งานเช่นกันเพียงแค่เตรียมเอกสารมาให้ครบนำมาลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิ์ที่หน้างานได้
ผอ.สำนักพัฒนาสังคม กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ตนอยากเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจมาลงทะเบียนขอสินเชื่อเพื่อนำไปประกอบอาชีพหรือเป็นเงินหมุนเวียนในกิจการโดยไม่ต้องไปกู้เงินนอกระบบ ทางกทม.โดยความร่วมมือทั้ง 2 ธนาคารพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.75% ต่อเดือน กรณีกู้ขั้นต่ำ 5,000 บาท เลือกผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือน 60 งวด เพียงงวดละ 22 บาท ส่วนกรณที่กู้ได้เต็มวงเงิน 100,000 บาท จะผ่อนชำระงวดละ 2,417 บาท นอกจากนี้ในกรณีไม่มีประวัติผิดนัดชะรำหนี้งวดใดงวดหนึ่งจะลดอัตราดอกเบี้ยให้ในปีถัดไปโดยคิดในอัตรา 0.50% ต่อเดือนเท่านั้น ขณะที่ธนาคารอิสลามฯ คิดเฉพาะค่าธรรมเนียมในอัตรา 75 บาทต่อเดือนต่อ 5,000 บาท แต่หากผู้กู้ไม่ดื่มสุราธนาคารจะลดค่าธรรมเนียมเหลือในอัตรา 50 บาทต่อเดือนต่อ 5,000 บาท
