สกอ.เตรียมเสนอ ทปอ.ประกาศชื่อเด็กโควตาเพื่อสร้างความเข้าใจให้ตรงกันระหว่างนักเรียนและมหาวิทยาลัย พร้อมแก้ปัญหาตัดสิทธิ์แอดมิชชันไปในตัว ขณะที่ยอดสรุปร้องเรียนแอดมิชชัน 4 วัน 99 ราย
นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยถึงปัญหามหาวิทยาลัยส่งรายชื่อเด็กโควตาเพื่อตัดสิทธิ์แอดมิชชันช้า จนทำให้มีนักเรียนร้องเรียนว่าถูกตัดสิทธิ์แอดมิชชันจำนวนมากว่า ตนจะเสนอที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ซึ่งในปีการศึกษา 2553 ทปอ.จะต้องเป็นผู้รับช่วงต่อดูแลการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา หรือแอดมิชชันกลางต่อจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ว่าต่อไปหากมหาวิทยาลัยส่งรายชื่อตัดสิทธิให้กับ ทปอ.แล้ว ต้องการมหาวิทยาลัยเปิดเผยรายชื่อนักเรียนที่ได้รับโควตาต่อสาธารณะ เพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อตัวเองได้ก่อนสมัครแอดมิชชัน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นปัญหาที่สำคัญที่ต้องประกาศให้มีความชัดเจนและมีกำหนดเวลาที่ตายตัวชัดเจน สำหรับความผิดพลาดในปีนี้เท่าที่ตรวจสอบทั้งหมดเป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกันระหว่างมหาวิทยาลัยกับเด็ก โดยมหาวิทยาลัยยืนยันว่าเด็กมีชื่อติดโควตาในมหาวิทยาลัยของตนเอง ส่วนนักศึกษาก็เข้าใจว่าการที่ตนเองไม่ไปสัมภาษณ์ตามเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนดถือว่าสละสิทธิ์แล้ว ต่อไปนี้มหาวิทยาลัยจะต้องประกาศรายชื่อรับตรงต่อสาธารณะเพื่อให้นักเรียนตรวจสอบได้
ขณะที่ นางศศิธร อหิงสโก ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักศึกษา ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกลุ่มรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กล่าวว่า ในวันนี้มีนักเรียนติดต่อร้องเรียนจำนวน 4 ราย และสรุปยอดตัวเลขนักเรียนที่ร้องเรียนแอดมิชชันรวม 4 วันมีจำนวน 99 ราย โดยอันดับแรก 47 ราย ร้องเรียนเรื่องถูกตัดสิทธิ์จากการสละสิทธิ์สอบตรง และในจำนวน 47 รายนี้ 36 ราย สกอ.ประสานมหาวิทยาลัยที่เด็กสละสิทธิ์และคืนสิทธิ์ให้เด็กแล้ว ส่วนที่เหลือจะประสานมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเด็กจะได้สอบสัมภาษณ์ให้ทันกับคนอื่นๆ ส่วนการร้องเรียนเรื่องอื่น เช่น ขาดคุณสมบัติในการสอบ ซึ่งได้ทำความเข้าใจเด็กและผู้ปกครองแล้ว หรือการคิดคำนวณไม่ตรงกับของ สกอ. เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ร้องเรียนออกมาก่อนหน้านี้จำนวนกว่า 110 คนนั้น เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีนักเรียนบางรายร้องเรียนซ้ำซ้อน แต่ในวันนี้ได้ตรวจสอบยืนยันพบว่ามีนักเรียนร้องเรียนรวมเพียง 99 รายเท่านั้น ซึ่งปีนี้ถือว่าการร้องเรียนน้อยมาก อย่างไรก็ดี ทาง สกอ.ก็ยังเปิดรับเรื่องร้องเรียนเพื่อช่วยเหลือนักเรียนและผู้ปกครองต่อไป