องค์การอนามัยโลกเพิ่มระดับความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดจากประเทศเม็กซิโกแล้วจากระดับ 4 เป็นระดับ 5 “วิทยา” ประสานองค์การเภสัชกรรมเดินเครื่องผลิตโอเซลทามิเวียร์เพิ่มแล้ววันนี้ 1 ล้านแคปซูล ยันไทยมีแผนระดับชาติไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมยกระดับวอร์รูมจากกรมเป็นระดับกระทรวง ระบุ ประชาชนไม่ต้องวิตก ส่วนนักเรียนไทยในเม็กซิโกหากต้องการกลับเมืองไทย จะประสานกทม.ยกทีหมอไปรับถึงสนามบิน
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย การบินไทย การท่าอากาศยาน ธุรกิจการบินแลสายการบินต่างๆ สหพันธ์ท่องเที่ยว สมาคมผู้ประกอบการขนส่ง สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรม บริษัทท่องเที่ยว สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว ไทย -จีน สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น ประมาณ 50 คน เพื่อหารือมาตรการและขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ที่มาพร้อมกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ภายหลังที่องค์การอนามัยโลกได้ประกาศเพิ่มระดับความรุนแรง สถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ในประเทศเม็กซิโกจากระดับ4 เป็นระดับ 5 เมื่อเช้าวันนี้ ถือเป็นการเตือนภัยซึ่งจะมีผลต่อประเทศที่ยังไม่มีการระบาดของโลก ยกวอร์รูมเป็นระดับกระทรวง
ในส่วนของประเทศไทย ขณะนี้ได้มีแผนระดับชาติไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ครบสูตร ประชาชนไม่ต้องหวั่นวิตก กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับการประชุมของศูนย์ปฏิบัติการเตรียมพร้อมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข หรือ “วอร์รูม” จากระดับกรมเป็นระดับกระทรวง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกกรมปฏิบัติการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และวางยุทธศาสตร์การป้องกันเฝ้าระวัง เร่งรัดอย่างเข้มข้น รวดเร็ว ครอบคลุมทุกด้าน
นายวิทยากล่าวต่อว่า มาตรการที่ไทยได้ดำเนินการขนาดนี้เพียงพอแล้ว แต่จะยกระดับการคัดกรองให้เข้มข้นขึ้นในระดับสากล โดยการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารหรือเครื่องเทอร์โมแสกนที่เดินทางจากต่างประเทศที่สนามบินเชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต เกาะสมุย สุวรรณภูมิ โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่านจะแจกแบบฟอร์มทำประวัติ การเฝ้าระวังการเจ็บป่วยให้ผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อติดตามอาการได้อย่างทันท่วงที ระหว่างที่พำนักในไทย หากอาการเข้าเงื่อนไขการระวังก็จะให้นอนโรงพยาบาล หากไม่เข้าข่ายก็จะดูแลติดตามอาการทุกวัน
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ จัดเตรียมทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว และอสม.ในจังหวัดทุกคน ซักซ้อมทำความเข้าใจการรับมือไข้หวัดเม็กซิโกอย่างเร่งด่วน และให้ดำเนินการระบบการเฝ้าระวังผู้เดินทางจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ 9 พื้นที่ที่มีผู้ป่วย ได้แก่ อเมริกา เม็กซิโก แคนาดา อังกฤษ นิวซีแลนด์ สเปน ออสเตรีย เยอรมนี อิสราเอล ให้ติดตามอาการป่วยเป็นเวลา 7 วัน หากพบให้นำตัวมาตรวจที่โรงพยาบาลทุกแห่งทันที หากมีอาการเข้าข่ายขอให้แพทย์ให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ทันที่ภายใน 48 ชั่วโมง ติดต่อกัน 5 วัน และให้นอนห้องปลอดเชื้อจนกว่าจะหาย
นายวิทยากล่าวต่อว่า จากกรณีที่วานนี้มีการตรวจสอบข้อมูลด้วยเครื่องเทอร์โมแสกนที่สุวรรณภูมิ พบว่าเครื่องได้ตรวจจับคลื่นความร้อนจากผู้โดยสารชายชาวออสเตรเลีย อายุ 52 ปี ที่เดินทางมาจากเมลเบิร์น โดยผู้สารคนดังกล่าวมีถิ่นพำนักอยู่ในพัทยา ผู้โดยสารรายนี้มีไข้สูง 39 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่จึงนำผู้โดยสารคนดังกล่าวไปเฝ้าระวังในห้องปฏิบัติการ สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจหาเชื้อ แต่ทั้งนี้ประเทศออสเตรเลียยังไม่ได้เป็นประเทศที่ถูกประกาศให้เป็นแหล่งแพร่เชื้อ จึงให้ผู้โดยสารรายดังกล่าวกลับบ้าน แต่ก็ได้มีการเฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิด
ในส่วนของนักเรียนไทยในประเทศเม็กซิโกที่ต้องการขอเดินทางกลับประเทศ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานไปยัง พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม.เพื่อประสานโรงพยาบาลและจัดทีมแพทย์เพื่อไปตรวจดูอาการถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และหากพบมีความเสี่ยงติดเชื้อ ก็จะให้มาพักที่โรงพยาบาลของ กทม.เพื่อตรวจให้แน่ชัด ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูรออีกว่าสถานการณ์ ณ ขณะนั้นจะรุนแรงแค่ไหน และในเรื่องของยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ นายวิทยาระบุว่า ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานไปยังองค์การเภสัชให้ดำเนินการผลิตจำนวน 1 ล้านเม็ด เพื่อรองรับหากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศไทย
“กระทรวงสาธารณสุขต้องขอความร่วมมือภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและเกี่ยวข้อง ร่วมเป็นเครือข่ายในการป้องกันเฝ้าระวังเพื่อให้ค้นพบผู้ป่วยให้เร็วที่สุด และรักษาเร็วที่สุด ขอความร่วมมือทัวร์ ให้ส่งรายชื่อ และที่อยู่นักท่องเที่ยวที่เดินทางหรือผ่านประเทศที่มีการระบาดในช่วงแรกๆ ได้แก่เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา แคนาดา ภายใน 14 วัน และสามารถติดต่อได้ ซึ่งจะทำให้สามารถเฝ้าระวัง ป้องกันไม่ให้เกิดแพร่ระบาดในประเทศไทยได้ทันที จากการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกล่าสุดนี้ มีรายงานพบผู้ป่วยใน 10 ประเทศแล้ว ในเอเชียมีที่เกาหลี แต่ต้องรอผลการตรวจยืนยัน”
สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกในวันที่ 30 เม.ย.นี้ มีผู้ป่วยใน 9 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา 91 ราย ในรัฐแอริโซนา แคลิฟอร์เนีย อินเดียนา แคนซัส แมสซาชูเสตต์ มิชิแกน เนวาดา นิวยอร์ก เทกซัส และโอไฮโอ ซึ่งพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย
ส่วนประเทศเม็กซิโก ป่วย 26 ราย เสียชีวิต 7 ราย ในแคนาดามีผู้ป่วย 13 ราย อังกฤษ 5 ราย สเปน 4 ราย เยอรมัน และนิวซีแลนด์ประเทศละ 3 ราย ประเทศอิสราเอล ป่วย 2 ราย ออสเตรเลีย มีผู้ป่วย 1 ราย ซึ่งในประเทศเม็กซิโก มีผู้ป่วยแล้ว 2,500 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 159 ราย
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขยังไม่ห้ามการเดินทางไปประเทศที่มีผู้ป่วย แต่ขอให้เลื่อนหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศที่เป็นแหล่งระบาดของโรคไปก่อน ออกกำลังกายให้มีสุขภาพแข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้ ผู้ที่เคยสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ควรลด ละเลิกดื่ม เพื่อไม่ให้อวัยวะภายในร่างกายถูกทำลาย จะทำให้เจ็บป่วยง่าย หากมีบุคคลในบ้านป่วยเป็นไข้หวัดขอให้คาดหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปสู่คนอื่น หากสงสัยให้สอบถามเจ้าหน้าที่ได้ที่ 0-2590-3333 และ 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง
ประเด็นสำคัญ หลังมีข่าวไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกเกิดขึ้น ทำให้คนไทยแตกตื่นไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ขอย้ำว่าโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกนี้ เป็นเชื้อตัวใหม่ ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน วัคซีนที่ใช้ในไทยขณะนี้เป็นวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่เกิดตามฤดูกาลปกติ จึงไม่มีผลป้องกันไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ดังนั้น การป้องกันที่สำคัญที่สุดที่ประชาชนไทยทุกคนต้องยึดเป็นแนวปฏิบัติป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก คือการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด กินของร้อน ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารร่วมกัน และล้างมือบ่อยๆ ผู้ที่เป็นไข้หวัด ไอ ต้องผูกหน้ากากอนามัย ป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปคนอื่น
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ผลการประชุมวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการดีมาก โดยมีข้อตกลงว่า ผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทุกเที่ยวบิน จะแจกเอกสาร ต.8 ซึ่งเป็นแบบสอบถามสุขภาพผู้เดินทางมาจากแหล่งระบาดของโรคตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 100,000 ฉบับ และให้ส่งที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ส่วนผู้โดยสารที่เข้ามาแล้ว 14 วันจาก 3 ประเทศคือเม็กซิโก แคนาดา และบางรัฐของสหรัฐอเมริกา ให้บริษัททัวร์ติดตามตรวจสอบว่ายังมีหลงเหลือในประเทศหรือไม่ เพื่อติดตามอาการได้ ทั้งนี้ หากผู้โดยสาร ลูกทัวร์มีไข้ ขอให้ส่งตัวไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อให้การรักษาอย่างทันท่วงที หรือให้ประสานปรึกษาได้ที่ 1669
รวมข่าวเกี่ยวเนื่องโรคหวัดเม็กซิโกในประเทศไทย
