สปสช.ยันรัฐบาลไม่ได้ตัดงบกองทุนหลักประกันสุขภาพ แจงงบรายหัวปีงบประมาณ 2553 ได้รับเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึง 2,406.32 บาทต่อประชากร หรือเพิ่มกว่า 9,637 ล้านบาท แถมจัดสรรงบให้กองทุนใหม่สำหรับโรคเรื้อรังเพิ่มกว่า 300 ล้านบาท
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2553 ซึ่งจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552-กันยายน 2553 นั้น นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้เสนอของบประมาณเหมาจ่ายรายหัวเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง ครม.ได้พิจารณาอนุมัติงบเหมาจ่ายรายหัวในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจำนวน 2,406.32 บาทต่อประชากร ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงบเหมาจ่ายรายหัวในปี 2552 ที่ได้รับจำนวน 2,202 บาทต่อประชากร เป็นจำนวน 204 บาท คิดเป็นเงินจำนวนเงินที่ได้รับเพิ่มถึง 9,637 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มมีการใช้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา, ในช่วง 5 ปีแรก (2546-2550) รัฐบาลได้จัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 457 บาทหรือเฉลี่ยได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้นปีละ 91.40 บาทต่อคน ขณะที่ในปี 2551-2552 รัฐบาลได้จัดสรรงบรายจ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้น 343 บาท หรือเฉลี่ยเพิ่มปีละ 171.50 บาทต่อคน และล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลชุดปัจจุบันได้จัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มขึ้นจำนวน 204 บาท ต่อคนในปี 2553
“แม้ว่าในปีนี้รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณในภาพรวมทั้งประเทศลดลงถึงร้อยละ 10 ก็ตาม แต่ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนทางด้านสุขภาพ ซึ่งจะเห็นจากการที่ได้อนุมัติงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มขึ้นแล้ว
และในปี 2553 ยังได้ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพคนไทยด้วยการจัดสรรงบประมาณให้กองทุนใหม่ในระบบหลักประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย คือ กองทุนผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เพิ่มขึ้นมาเป็นปีแรก คือ จำนวน 304.593 ล้านบาท ที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากในอนาคตโรคดังกล่าวจะทำให้คนไทยเสี่ยงหรือถูกคุกคามต่อภาวะโรคดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน” นพ.วินัย กล่าว
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2553 ซึ่งจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552-กันยายน 2553 นั้น นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้เสนอของบประมาณเหมาจ่ายรายหัวเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง ครม.ได้พิจารณาอนุมัติงบเหมาจ่ายรายหัวในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจำนวน 2,406.32 บาทต่อประชากร ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงบเหมาจ่ายรายหัวในปี 2552 ที่ได้รับจำนวน 2,202 บาทต่อประชากร เป็นจำนวน 204 บาท คิดเป็นเงินจำนวนเงินที่ได้รับเพิ่มถึง 9,637 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มมีการใช้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา, ในช่วง 5 ปีแรก (2546-2550) รัฐบาลได้จัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 457 บาทหรือเฉลี่ยได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้นปีละ 91.40 บาทต่อคน ขณะที่ในปี 2551-2552 รัฐบาลได้จัดสรรงบรายจ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้น 343 บาท หรือเฉลี่ยเพิ่มปีละ 171.50 บาทต่อคน และล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลชุดปัจจุบันได้จัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มขึ้นจำนวน 204 บาท ต่อคนในปี 2553
“แม้ว่าในปีนี้รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณในภาพรวมทั้งประเทศลดลงถึงร้อยละ 10 ก็ตาม แต่ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนทางด้านสุขภาพ ซึ่งจะเห็นจากการที่ได้อนุมัติงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มขึ้นแล้ว
และในปี 2553 ยังได้ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพคนไทยด้วยการจัดสรรงบประมาณให้กองทุนใหม่ในระบบหลักประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย คือ กองทุนผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เพิ่มขึ้นมาเป็นปีแรก คือ จำนวน 304.593 ล้านบาท ที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากในอนาคตโรคดังกล่าวจะทำให้คนไทยเสี่ยงหรือถูกคุกคามต่อภาวะโรคดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน” นพ.วินัย กล่าว
