มูลนิธิเพื่อนหญิงและเครือข่าย จี้ พม.ทบทวนนโยบายห้ามขายเหล้าสงกรานต์ หลังตัวเลขชี้ชัดยอดคนตายช่วง 7 วันอันตรายปีล่าสุดเพิ่มขึ้น จี้ห้ามขายตลอด 3 วัน ให้มีผลบังคับใช้สงกรานต์ปีหน้าทันที “อิสสระ” รับต้องทบทวนมาตรการใหม่ เผย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข บางจังหวัดรายงานตัวเลขคนตายปลอมแก่ต้นสังกัด หวังทำงานตรงเป้า ย้ำหลายฝ่ายต้องเร่งถกแก้ปัญหาที่ถูกจุด ยันปีหน้ายกมือหนุนห้ามขายเหล้าสงกรานต์
วันนี้ (27 เม.ย.) นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง พร้อมด้วยเครือข่ายผู้หญิงเฝ้าระวังปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 10 จังหวัด เข้ายื่นหนังสือข้อเรียกร้องและแสดงจุดยืน ต่อ นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในการให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ผลักดันให้ทบทวนมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้เป็นเทศกาลปลอดภัยสำหรับผู้หญิง และไร้การคุกคามทางเพศ พร้อมทั้งกล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2552 สถิติอุบัติเหตุสะสมในช่วง 7 วันอันตราย(10-16 เม.ย.) มีอุบัติเหตุรวม 3,977 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 4,332 ราย เสียชีวิต 373 ราย ซึ่งหากเทียบจากสถิติในปี 2551 จะพบว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 4,243 ครั้ง บาดเจ็บ 4,803 ราย เสียชีวิต 368 ราย โดยจำนวนผู้เสียชีวิตในปีนี้สูงขึ้นจากเดิม 5 ราย ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของการเกิดอุบัติเหตุก็ยังคงมาจากการเมาสุราเช่นเดิม แม้ว่าภาพรวมสถิติอุบัติเหตุ คนเจ็บจะลดลง แต่ก็มีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นนั้นแสดงว่าอุบัติเหตุที่เกิดมีความรุนแรงมากขึ้น และชี้ชัดว่า การรณรงค์ตั้งด่านตรวจเพียงอย่างเดียวไม่ประสบผลสำเร็จ
นายจะเด็จ กล่าวต่อว่า ในการสุ่มตรวจใน 10 จังหวัดเครือข่าย พบว่า ในจำนวนผู้ดื่ม 5 คน จะเป็นผู้หญิงที่ดื่มถึง 2 คน เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากสถานการณ์ปกติโดยอยู่ที่ ผู้ดื่ม 6 คน เป็นผู้หญิงที่ดื่ม 1 คน ก็จะนำมาสู่ปัญหาความรุนแรงและการคุกคามทางเพศ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ จากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้ภาพการลวนลามคุกคามทางเพศเกิดขึ้นโดยทั่วไปเป็นเหมือนเรื่องปกติ ทั้งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ยินยอม แต่ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก็ทำให้ขาดสติในการป้องกันตนเอง
“ผลการสุ่มตรวจการเล่นน้ำสงกรานต์ ที่พระปะแดง จ.สมุทรปราการ วันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น พบว่า คนเล่นสงกรานต์แล้วดื่มเหล้า 540 คน เป็นชาย 324 คน หรือร้อยละ 60 เป็นหญิง 216 คน หรือร้อยละ 40 ที่น่าตกใจคือพบเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทั้งหญิงและชาย ดื่มเหล้าถึง 95 คน หรือร้อลละ 17.59 และพบอีกว่าร้านค้าเกือบทั้งหมด ขายเหล้าให้แก่เด็กเป็นเรื่องปกติ” นายจะเด็จ กล่าว
ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อเรียกร้องที่ยื่นแสดงจุดยืนต่อกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นั้น มีดังต่อไปนี้ 1.ขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เร่งผลักดันให้คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ทบทวนมาตรการห้ามข้ายเหล้า 3 วัน ไม่มีข้อยกเว้นโดยเร็วที่สุด ให้มีผลบังคับใช้ในสงกรานต์ปี 2553 2.ขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ผลักดันให้ คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เร่งผลักดันให้มีการห้ามขายเหล้าในวันพระใหญ่อย่างเร่งด่วน 3.ขอเรียกร้องให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นเจ้าภาพหลักในการรณรงค์ให้สงกรานต์ของทุกๆ ปี เป็นเทศกาลที่ปลอดภัยแก่ผู้หญิง ไร้การลวนลาม คุกคามทางเพศ
ด้าน นายอิสสระ สมชัย รมว.พม.กล่าวว่า จากตัวเลขที่ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้มีเพิ่มขึ้น ซึ่งการลงมติของคณะกรรมการที่ผ่านมา ก็เห็นด้วยว่าไม่ควรยกเลิกการจำหน่ายแอลกอฮอล์ แต่เมื่อตัวเลขออกมาเป็นเช่นนี้ก็ต้องมีการทบทวนกันใหม่ ทุกฝ่ายต้องมาคุยกัน เพื่อการเตรียมตัวที่ไม่กระชั้นชิดเกินไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแต่ละจังหวัดก็ต้องรายงานตัวเลขที่เป็นจริง เพราะเท่าที่ตนได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ทำให้ทราบว่า ที่ผ่านมากับนโยบายที่ต้องการให้จำนวนอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ลดลงนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในบางจังหวัดไม่รายงายตัวเลขที่เป็นจริง กลับเป็นการรายงานตัวเลขที่น้อยกว่าความเป็นจริงเพื่อให้ดูว่าการทำงานตรงตามเป้ากับทางต้นสังกัดและทำให้มีผลต่อการพิจารณาความดีความชอบ ในเรื่องของมาตรการของเจ้าหน้าที่ในการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์นั้นก็อยากให้ดำเนินการอย่างจริงจังด้วย
“เรื่องนี้ต้องพูดกันถึงความจริงว่าสาเหตุนั้นมาจากอะไร ต้องนำปัญหามาคุยกันจึงจะแก้ปัญหาอย่างถูกจุด การที่เห็นว่าแต่ละปีมีตัวเลขที่ลดลงเรื่อยๆ นั้น ก็จะได้แค่ตัวเลขปลอมๆ ตลอดเวลา และกับตัวเลขผู้เสียชีวิตในปีนี้ที่ยืนยันชัดเจนว่ามากกว่าปีที่ผ่านมาตนก็เห็นด้วยที่จะให้งดขายเหล้าในช่วงสงกรานต์ปีหน้า” รมว.พม.กล่าว