เหตุโลกร้อนทำเมืองไทยอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 35 องศา มากถึง 121 วันต่อปี จากเดิมมีแค่ 35 วันต่อปี แนะ กทม.เป็นองค์กรตัวอย่างนำร่องให้รถผู้บริหารใช้ไฮบริด คาร์ ติดตั้งข้อควรปฏิบัติตามป้ายรถเมล์ แนะนำประชาชนปฏิบัติช่วยลดโลกร้อน
นายจิรพล สินธุนาวา อาจารย์ประจำคณะสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ประธานมูลนิธิใบไม้สีเขียว เปิดเผยว่า จากการสำรวจพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นทุกปี ทั้งนี้ จากรายงานในหนังสือ Bangkok Assessment Report on Climate Change 2009 มีการระบุว่าจากการติดตามสภาพอากาศประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ.1967-2007 อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 35 องศา เดิมมีเพียง 35 วันต่อปี แต่ปัจจุบันจำนวนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูง 35 องศาเพิ่มเป็น 121 วันต่อปี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำให้เกิดโรคอุบัติใหม่และโรคที่เกิดซ้ำ โดยเสนอให้ กทม.เป็นองค์กรตัวอย่างในการแก้ปัญหา เช่น การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น ก็ควรปรับเปลี่ยนรถของผู้บริหารให้เป็นการใช้พลังงานไฮบริด การเปลี่ยนรถขนขยะมูลฝอยมาใช้พลังงานทดแทน เช่น ติดแก๊สธรรมชาติ แทนการใช้น้ำมัน
นอกจากนั้นแล้ว ในหน่วยงานของ กทม.นั้น ต้องมีมาตรการที่จริงจังในการลดใช้พลังงานในสำนักงานด้วยการให้ข้าราชการ ลูกจ้างร่วมมือกัน และที่สำคัญควรแจ้งเตือนประชาชนในการดูแลสุขภาพช่วงที่อากาศร้อนจัด เช่น ที่ประเทศอินเดีย มีการติดข้อความประชาสัมพันธ์ข้อแนะนำในการดูแลตนเองในช่วงที่อากาศร้อนตามที่สาธารณะ ขณะที่ประเทศอังกฤษ ก็มีการทำอุโมงค์ละอองน้ำ เพื่อลดอุณหภูมิให้กับประชาชนในที่สาธารณะ โดยในส่วนของ กทม.ควรเร่งกำหนดมาตรการลดโลกร้อน ติดไว้ตามป้ายรถโดยสารประจำทาง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและปฏิบัติตาม
นายจิราพล กล่าวด้วยว่า ในส่วนของเรื่องสุขภาพนั้น กทม.ต้องเริ่มระบบเตือนภัยล่วงหน้าสำหรับสภาพอากาศและมลพิษที่มีความรุนแรง พร้อมกับปรับปรุงโครงการเฝ้าระวังและป้องกันโรค และให้การศึกษาบุคลากรสาธารณสุขในท้องถิ่นและสาธารณะเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้วย
นายจิรพล สินธุนาวา อาจารย์ประจำคณะสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ประธานมูลนิธิใบไม้สีเขียว เปิดเผยว่า จากการสำรวจพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นทุกปี ทั้งนี้ จากรายงานในหนังสือ Bangkok Assessment Report on Climate Change 2009 มีการระบุว่าจากการติดตามสภาพอากาศประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ.1967-2007 อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 35 องศา เดิมมีเพียง 35 วันต่อปี แต่ปัจจุบันจำนวนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูง 35 องศาเพิ่มเป็น 121 วันต่อปี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำให้เกิดโรคอุบัติใหม่และโรคที่เกิดซ้ำ โดยเสนอให้ กทม.เป็นองค์กรตัวอย่างในการแก้ปัญหา เช่น การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น ก็ควรปรับเปลี่ยนรถของผู้บริหารให้เป็นการใช้พลังงานไฮบริด การเปลี่ยนรถขนขยะมูลฝอยมาใช้พลังงานทดแทน เช่น ติดแก๊สธรรมชาติ แทนการใช้น้ำมัน
นอกจากนั้นแล้ว ในหน่วยงานของ กทม.นั้น ต้องมีมาตรการที่จริงจังในการลดใช้พลังงานในสำนักงานด้วยการให้ข้าราชการ ลูกจ้างร่วมมือกัน และที่สำคัญควรแจ้งเตือนประชาชนในการดูแลสุขภาพช่วงที่อากาศร้อนจัด เช่น ที่ประเทศอินเดีย มีการติดข้อความประชาสัมพันธ์ข้อแนะนำในการดูแลตนเองในช่วงที่อากาศร้อนตามที่สาธารณะ ขณะที่ประเทศอังกฤษ ก็มีการทำอุโมงค์ละอองน้ำ เพื่อลดอุณหภูมิให้กับประชาชนในที่สาธารณะ โดยในส่วนของ กทม.ควรเร่งกำหนดมาตรการลดโลกร้อน ติดไว้ตามป้ายรถโดยสารประจำทาง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและปฏิบัติตาม
นายจิราพล กล่าวด้วยว่า ในส่วนของเรื่องสุขภาพนั้น กทม.ต้องเริ่มระบบเตือนภัยล่วงหน้าสำหรับสภาพอากาศและมลพิษที่มีความรุนแรง พร้อมกับปรับปรุงโครงการเฝ้าระวังและป้องกันโรค และให้การศึกษาบุคลากรสาธารณสุขในท้องถิ่นและสาธารณะเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้วย
