บุรีรัมย์ – ประชาชนชาวบุรีรัมย์และนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางกลับเข้ากรุง ส่งผลสถานีขนส่งและสถานีรถไฟ หนาแน่นคาดตลอดทั้งวันมีผู้เดินทางกลับร่วมหมื่นคน ขณะสถานีขนส่งสั่งพักพนักงานขับรถโดยสารที่ฝ่าฝืนดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับรถ 1 ราย ส่วนสถิติอุบัติเหตุ 5 วันมีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย บาดเจ็บ 75 ราย
วันนี้ (15 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดบุรีรัมย์ และสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยว มารอขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับไปทำงานหลังเที่ยวฉลองเทศกาลสงกรานต์กันอย่างหนาแน่นแล้ว โดยเฉพาะที่สถานีขนส่งผู้โดยสารคาดตลอดทั้งวันนี้จะมีผู้เดินทางกลับร่วมหมื่นคน จากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้เดินทางกลับในวันนี้ 3,000 -4,000 คน
นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ และสารเสพติดในร่างกายพนักงานขับรถโดยสารประจำทางทุกคันก่อนออกเดินทาง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และพบว่ามีพนักงานขับรถโดยสารประจำทางฝ่าฝืนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับรถถูกสั่งพักแล้ว 1 ราย พร้อมได้ให้บริษัทเดินรถเปลี่ยนพนักงานขับรถคนใหม่ด้วย ขณะตั๋วรถไฟ และรถโดยสารขากลับเข้ากรุงเทพฯ ได้ถูกจองเต็มทั้งหมดไปจนถึงวันที่ 19 เม.ย.
ด้านนางอัจฉรา ราชแก้ว หัวหน้าฝ่ายวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้แจ้งให้ผู้โดยสารรายใดที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ จากการใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ให้แจ้งได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะ ที่ตั้งอยู่ในสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่งทั้งจังหวัดด้วย เพื่อจะได้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบเอาผิดทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์จังหวัดบุรีรัมย์ รายงานว่า ช่วง 5 วัน ในห้วง 7 วันระวังอันตราย ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ มีอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้น รวมจำนวน 75 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย เป็นชาย 6 ราย หญิง 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 75 ราย เป็นชาย 53 ราย หญิง 22 ราย ส่วนมากกว่า 78 % เกิดจากการขับขี่รถจักรยานยนต์
ส่วนอำเภอที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ อ.นางรอง 13 ครั้ง รองลงมาเป็น อ.ประโคนชัย 13 ครั้ง ลำปลายมาศ 9 ครั้ง และ อ.พลับพลาชัย 8 ครั้ง
ขณะที่ทางจังหวัดฯ ตั้งเป้าหมายไว้ว่าปีนี้ยอดผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะลดลงจากปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 10 % ซึ่งปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตตลอด 7 วัน รวม 8 ราย บาดเจ็บ 117 ราย
นอกจากนี้ยังพบว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ยังเกิดจากผู้ขับขี่รถไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ประมาท ไม่สวมหมวกนิรภัย และเมาแล้วขับ ถึงแม้ทางจังหวัดฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งตั้งจุดตรวจบริการตามหมู่บ้าน ตำบล กว่า 300 จุดแล้วก็ตาม