ศธ.เพิ่มระดับรักษาความปลอดภัยเป็นระดับ 3 หรือ แผนแดง ตั้งแต่คืนวันที่ 8 เม.ย.ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 150 นายดูแลความปลอดภัย และพร้อมประสานทหารทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน รองปลัด ศธ.ห่วงเหตุเพลิงไหม้ เนื่องจากอาคารส่วนใหญ่เป็นอาคารไม้เก่ากว่า 100 ปี เผยหลัง 6 โมงเย็นให้ทุกคนออกจากกระทรวงฯ และห้ามเข้าออกเด็ดขาด หวั่นยามวิกาลดูแลไม่ทั่วถึง
นายบุญรัตน์ วงศ์ใหญ่ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ภายหลังมีกระแสข่าวว่าอาจมีการก่อความไม่สงบโดยเผาสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญๆ ว่า ขณะนี้ ศธ.ได้ยกระดับแผนการรักษาความปลอดภัยอยู่ในระดับ 3 หรือแผนแดงที่ต้องมีการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตั้งแต่คืนวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยได้เพิ่มเวรยามดูแลความเรียบร้อยใน ศธ.เพิ่มมากขึ้น ปิดประตู ศธ.ให้รถเข้าออกเข้าได้ทางเดียว ซึ่งรถที่ไม่มีสติ๊กเกอร์ให้เจ้าหน้าที่จดหมายเลขทะเบียนรถไว้ และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยภายใน ศธ. โดยให้เจ้าหน้าที่ตั้งกองอำนวยการอยู่ที่ศูนย์เสมารักษ์ จำนวนหนึ่งกองร้อย หรือประมาณ 150 นาย นอกจากนี้ ยังได้ประสานทหารจากกองทัพภาคที่ 1 ไว้ในกรณีที่เกิดสถานการณ์กรณีฉุกเฉิน
“ขณะนี้เราเตรียมการค่อนข้างพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังมีความกังวลหากเกิดการลอบวางเพลิงขึ้นจริงๆ เนื่องจากอาคารของ ศธ.ส่วนใหญ่เป็นอาคารไม้เก่า อายุ 100 กว่าปี ซึ่งมีความเปราะบาง แต่ได้กำชับให้ทุกองค์กรตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องเรื่องเพลิงไหม้ และได้จัดเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิงไว้พร้อมหมดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการฝึกซ้อมมาโดยตลอด”รองปลัด ศธ.กล่าว
นายบุญรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่ามีกลุ่มม็อบเสื้อแดงเข้ามาใช้ห้องสุขา และอาบน้ำใน ศธ.นั้น เนื่องจากผู้ชุมนุมได้ขอความอนุเคราะห์มา ซึ่งในสมัยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ชุมนุม ศธ.ก็เปิดให้ผู้ชุมนุมเข้ามาใช้ห้องสุขาเช่นกัน ดังนั้น เมื่อกลุ่มเสื้อแดงขอความอนุเคราะห์มาจึงอนุญาตให้เข้ามาใช้ได้ แต่ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลบุคคลที่เข้า-ออกภายใน ศธ.อย่างเข้มงวด หากเห็นว่ามีสิ่งพิรุธก็ให้ติดตามดูพฤติกรรม ทั้งนี้ หลัง 18.00 น.เป็นต้นไป ศธ.จะขอให้ทุกคนออกจาก ศธ.และปิดประตูห้ามเข้าออกทุกประตู เนื่องจากในเวลากลางคืนดูแลความปลอดภัยได้ยากกว่าจึงขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย
นายบุญรัตน์ วงศ์ใหญ่ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ภายหลังมีกระแสข่าวว่าอาจมีการก่อความไม่สงบโดยเผาสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญๆ ว่า ขณะนี้ ศธ.ได้ยกระดับแผนการรักษาความปลอดภัยอยู่ในระดับ 3 หรือแผนแดงที่ต้องมีการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตั้งแต่คืนวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยได้เพิ่มเวรยามดูแลความเรียบร้อยใน ศธ.เพิ่มมากขึ้น ปิดประตู ศธ.ให้รถเข้าออกเข้าได้ทางเดียว ซึ่งรถที่ไม่มีสติ๊กเกอร์ให้เจ้าหน้าที่จดหมายเลขทะเบียนรถไว้ และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยภายใน ศธ. โดยให้เจ้าหน้าที่ตั้งกองอำนวยการอยู่ที่ศูนย์เสมารักษ์ จำนวนหนึ่งกองร้อย หรือประมาณ 150 นาย นอกจากนี้ ยังได้ประสานทหารจากกองทัพภาคที่ 1 ไว้ในกรณีที่เกิดสถานการณ์กรณีฉุกเฉิน
“ขณะนี้เราเตรียมการค่อนข้างพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังมีความกังวลหากเกิดการลอบวางเพลิงขึ้นจริงๆ เนื่องจากอาคารของ ศธ.ส่วนใหญ่เป็นอาคารไม้เก่า อายุ 100 กว่าปี ซึ่งมีความเปราะบาง แต่ได้กำชับให้ทุกองค์กรตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องเรื่องเพลิงไหม้ และได้จัดเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิงไว้พร้อมหมดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการฝึกซ้อมมาโดยตลอด”รองปลัด ศธ.กล่าว
นายบุญรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่ามีกลุ่มม็อบเสื้อแดงเข้ามาใช้ห้องสุขา และอาบน้ำใน ศธ.นั้น เนื่องจากผู้ชุมนุมได้ขอความอนุเคราะห์มา ซึ่งในสมัยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ชุมนุม ศธ.ก็เปิดให้ผู้ชุมนุมเข้ามาใช้ห้องสุขาเช่นกัน ดังนั้น เมื่อกลุ่มเสื้อแดงขอความอนุเคราะห์มาจึงอนุญาตให้เข้ามาใช้ได้ แต่ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลบุคคลที่เข้า-ออกภายใน ศธ.อย่างเข้มงวด หากเห็นว่ามีสิ่งพิรุธก็ให้ติดตามดูพฤติกรรม ทั้งนี้ หลัง 18.00 น.เป็นต้นไป ศธ.จะขอให้ทุกคนออกจาก ศธ.และปิดประตูห้ามเข้าออกทุกประตู เนื่องจากในเวลากลางคืนดูแลความปลอดภัยได้ยากกว่าจึงขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย
