สุดยื้อ! ศิลปินแห่งชาติ “จิตต์ จงมั่นคง” ถึงแก่กรรมแล้ว

สุดยื้อ โรคหัวใจ-ปอดติดเชื้อ พราก “จิตต์ จงมั่นคง” ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่ายศิลปะ) วัย 87 ปี สิ้นใจ ญาตินำศพไว้ที่วัดธาตุทอง พระราชทานเพลิงศพ 11 เม.ย.ด้าน สวช. เตรียมช่วยเหลือค่าทำศพ และพิมพ์หนังสือประวัติแจกในงานพระราชทานเพลิงศพแล้ว

วันนี้ (7 เม.ย.) นายสันติสุข จงมั่นคง กรรมการบริหารบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) บุตรชาย นายจิตต์ จงมั่นคง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่ายศิลปะ) ปี 2538 กล่าวว่า บิดาได้ถึงแก่กรรมแล้ว ด้วยโรคหัวใจ และปอดติดเชื้อ เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ที่โรงพยาบาลศิริราช รวมอายุ 87 ปี

ทั้งนี้ นายจิตต์ ได้เข้ารักษาโรคหัวใจ และปอด ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มีนาคม และได้รับยาละลายลิ่มเลือด ทำให้มีผลกระทบต่อโรคปอด จนมีการอาการทั้งทรงและทรุดตลอดมา จากนั้นได้รับความอนุเคราะห์จาก นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการพระราชวัง ให้เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช จนเมื่อคืนวันที่ 6 เม.ย.เกิดอาการช็อก หัวใจหยุดเต้น และเลือดไหลในช่องท้อง จนทีมแพทย์ต้องทำการปั๊มหัวใจ เป็นเวลา 20 นาที จึงฟื้นขึ้น ต่อมาเวลา 14.00 น.หัวใจกลับหยุดเต้น และสมองขาดเลือด จนเสียชีวิตในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางญาติจะนำศพไปไว้ที่วัดธาตุทอง กำหนดสวดอภิธรรมศพ ตั้งแต่วันที่ 8-10 เม.ย.ณ ศาลา 3 วัดธาตุทอง เวลา 19.00 น.และพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 11 เม.ย.เวลา 19.00 น.

นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ขอแสดงความเสียใจของการจากไปของศิลปินแห่งชาติผู้สร้างชื่อให้ผลงานภาพถ่ายของไทย สำหรับการช่วยเหลือกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม สวช.จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายทำศพ 15,000 บาท และค่าพิมพ์หนังสือประวัติแจกในงานพระราชทานเพลิงศพ 120,000 บาท

สำหรับประวัติ นายจิตต์ จงมั่นคง เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2465 ที่กรุงเทพมหานคร จบมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก เป็นศิลปินภาพถ่ายศิลปะอาวุโสที่ดีเด่นเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ เป็นผู้บุกเบิกงานด้านภาพถ่ายและภาพถ่ายศิลปะคนสำคัญคนหนึ่งของไทย เริ่มงานถ่ายภาพ เมื่อมีอายุ 16 ปี และทำงานด้านนี้อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน รวมเป็นเวลากว่า 60 ปี นับเป็นผู้ที่ได้อุทิศตนให้กับงานด้านภาพถ่ายและภาพถ่ายศิลปะอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังเคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล้างฟิล์มถวายเป็นเวลาร่วม 37 ปี ซึ่งเจ้าตัวรู้สึกปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง

ในด้านวิชาชีพภาพถ่ายนั้น เป็นผู้มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับในวงการวิชาชีพทั้งในอดีตและปัจจุบัน ตัวอย่างรางวัลและเกียรติคุณ อาทิ รับรางวัลเกียรตินิยมสูงสุด จากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พ.ศ.2511 รางวัลเกียรตินิยมสูงสุด จากสหพันธ์ศิลปะการถ่ายภาพนานาชาติ พ.ศ.2530 จนได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่ายศิลปะ) ประจำปี พ.ศ.2538 จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม