สธ.เตรียมรณรงค์ งดเหล้าเข้มข้น ใช้สโลแกน “รถปลอดเหล้า เราปลอดภัย” ด้าน สสส.ระดมภาคี เครือข่าย 43,000 คน รณรงค์ลดอุบัติเหตุสงกรานต์ ชี้ แม้รณรงค์เข้มข้นเต็มที่ แต่ตัวเลขคนเจ็บ-ตาย อาจไม่ลดมากกว่าที่เป็นอยู่ หากไม่มีเครื่องมืออื่นมากระตุ้น เผย มีภัตตาคารทั่วประเทศสมัครใจร่วมโครงการงดขายเหล้าช่วงสงกรานต์กว่า 30 ร้านแล้ว
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ สธ.ได้เตรียมแผนการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชนให้งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะผู้ขับขี่ยานพาหนะ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งได้มอบหมายให้ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ จัดทำโครงการรณรงค์ เบื้องต้น จะใช้สโลแกนว่า “รถปลอดเหล้า เราปลอดภัย”
“สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป สธ.จะเริ่มรณรงค์งดเหล้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด และขอความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์ให้พิธีกรรายการต่างๆ ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยของการดื่มแอลกอฮอล์ และจะมีกิจกรรมรณรงค์โดยเน้นที่สถานีขนส่งต่างๆ ทั้งขนส่งสายเหนือ สายใต้ และสถานีรถไฟ โดยเฉพาะพนักงานขับรถสาธารณะให้งดดื่มเหล้า หรือเบียร์อย่างเด็ดขาด” นายมานิต กล่าว
นายมานิต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ช่วยรณรงค์ในพื้นที่ควบคู่ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย โดยเฉพาะร้านค้า ร้านอาหาร ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่อย่างเข้มงวด ทั้งไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และต้องขอดูบัตรประชาชนทุกครั้ง และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะเวลา คือ 11.00-14.00 น.และ 14.00-24.00 น.เท่านั้น
ด้านนพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการสร้างสุขภาวะและลดปัจจัยเสี่ยง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีการรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ส่วนในช่วงเทศกาลที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกตินั้น จะมีการเตรียมการรณรงค์อย่างเข้มข้นมากขึ้น และร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ โดยจะมีการระดมภาคประชาสังคม ภาคี เครือข่าย ประมาณ 43,000 คน ทั่วประเทศ อาทิ เครือข่ายเยาวชน อาสาสมัครสาธารณสุข หมออนามัย องค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อกระจายรณรงค์ให้ความรู้ในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยๆ 25 จังหวัด
“การรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุที่มีการทำงานอย่างเต็มที่ และต่อเนื่องจะสามารถลดอุบัติเหตุลงได้ แต่จะไม่มากไปกว่าที่เป็นอยู่ทำให้ยังคงมียอดคนบาดเจ็บเสียชีวิตในเทศกาลหลายร้อยคน การที่มีความพยายามใช้มาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่ม หรือ ห้ามดื่มบนยานพาหนะ ถือเป็นการสร้างเครื่องมือขึ้นใหม่ และคาดว่า จะสามารถช่วยเหลือไม่ให้มีคนเจ็บ ตาย เพิ่มขึ้น แต่เมื่อไม่สามารถนำกฎหมายมาใช้ได้ ก็ต้องใช้การรณรงค์เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งช่วยได้เพียงเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่และประสานงาน เช่น การประสานงานด่านให้ตรวจจับ เพราะอาสาสมัครทำได้เพียงเตือนด้วยความหวังดี” นพ.สุปรีดา กล่าว
นพ.สุปรีดา กล่าวต่อว่า ขณะนี้การรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุเริ่มทำในส่วนของการประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ในโครงการดื่มแล้วขับถูกจับแน่ และเริ่มมีการแจกป้ายรณรงค์ไปในพื้นที่ต่างๆ นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับสมาคมภัตรคาร มอบประกาศนียบัตรให้กับร้านค้าที่สมัครใจเข้าร่วมการรณรงค์โดยงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงวันสงกรานต์ ซึ่งขณะนี้มีร้านค้า ร้านอาหาร เข้าร่วมโครงการแล้วทั้งสิ้น 31 ร้านทั่วประเทศ แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายออกมาบังคับใช้ก็ตาม ซึ่งจะถือเป็นร้านต้นแบบและจะมีการขยายการรณรงค์ให้เพิ่มขึ้น
นพ.สุปรีดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สสส.ยังมีแผนงานทุนอุปถัมภ์ ที่จะเข้าไปสนับสนุนการจัดกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ แทนบริษัทเหล้า เพื่อให้เป็นเทศกาล ประเพณีปลอดเหล้า เช่น ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น คูเมือง จ.เชียงใหม่ หรือประเพณีลอยกระทง ชักพระ โดยจะขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกจังหวัด ให้เกิดต้นแบบที่ดีและทำให้วัฒนธรรมประเพณี ไม่ถูกทำลายจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
